กรมทรัพย์สินฯ – IPAT – Baker McKenzie ชวนเปิดมุมมองพัฒนา กม.ทรัพย์สินทางปัญญา วางทิศทางอนาคต AI

กรมทรัพย์สินทางปัญญา จับมือ สมาคมทรัพย์สินทางปัญญาฯ และ เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จัดเสวนา “Innovating Together: Shaping the IP Landscape in the Age of Generative AI” สร้างเวทีแลกเปลี่ยน เรียนรู้ รับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญ AI ตั้งเป้าสร้างอีโคซิสเต็มด้านทรัพย์สินทางปัญญา นำศักยภาพของ AI ขับเคลื่อนนวัตกรรมและยกระดับธุรกิจ หนุนไทยวางนโยบายและกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา รับโลกยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลง

กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ สมาคมทรัพย์สินทางปัญญาแห่งประเทศไทย (IPAT) และ บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด จัดเสวนาครั้งสำคัญในหัวข้อ “Innovating Together: Shaping the IP Landscape in the Age of Generative AI” ทั้งนี้ นางสาวนุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ปัจจุบัน AI โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ หรือ Generative AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกมิติของสังคมและเศรษฐกิจ ตั้งแต่การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ วรรณกรรม ดนตรี ไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ นำมาซึ่งโอกาสมหาศาลในแง่ของนวัตกรรมและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความท้าทายที่สำคัญในด้านกฎหมายและการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในประเด็นเกี่ยวกับการนำข้อมูลไปใช้ฝึกโมเดล AI ไปจนถึงประเด็นการให้ความคุ้มครองต่อผลงานที่ Generative AI ได้สร้างสรรค์ขึ้น ซึ่งความท้าทายเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญในอนาคตอันใกล้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน หรืออุตสาหกรรมสร้างสรรค์ จำเป็นต้องเตรียมพร้อมและหาแนวทางรับมือที่เหมาะสมกับความท้าทายที่เกิดขึ้นนี้อย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาตระหนักถึงความท้าทายด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดขึ้น จึงได้จัดการเสวนาในครั้งนี้ขึ้น เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา บริษัทเทคโนโลยี ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และผู้กำหนดนโยบายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการพัฒนากรอบกฎหมายและการดำเนินการที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการรักษาสมดุลระหว่างการคุ้มครองสิทธิของเจ้าของสิทธิและการส่งเสริมนวัตกรรม เพื่อเตรียมสภาพแวดล้อมด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทยให้เอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัล สอดรับกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลและข้อมูลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อนำประเทศไทยไปสู่ความล้ำสมัย ดึงดูดการลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่จากต่างประเทศ อีกทั้งพัฒนาศักยภาพของคนไทยให้สามารถใช้ AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ยกระดับการดำเนินธุรกิจและการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม การเสวนาครั้งนี้เป็นเวทีที่รวบรวมมุมมองและแนวทางจากต่างประเทศในประเด็นด้านทรัพย์สินทางปัญญาและ Generative AI โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นเกี่ยวกับข้อยกเว้นสำหรับกรณีการทำเหมืองข้อความและข้อมูล (Text and Data Mining) โดยศึกษาประสบการณ์จากประเทศชั้นนำอย่างสหรัฐฯ ยุโรป จีน ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เพื่อเปิดประตูสู่โอกาสที่ประเทศไทยจะพิจารณาใช้ประโยชน์จากข้อยกเว้นดังกล่าวในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพ โดยในวันนี้ถือเป็นก้าวแรกในการร่วมกันออกแบบและกำหนดภูมิทัศน์ด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับ Generative AI เพื่อนำไปสู่การตกผลึกแนวทางและนโยบายที่เหมาะสม อันจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศต่อไป.





You may also like
