สิงคโปร์ ชื่นชม “รมว.ยุติธรรม” ของ กับผลงานเด่น! ส่งเสริมสันติภาพ พัฒนาศักยภาพประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างเครือข่ายผู้นำชุมชนมุสลิมที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย พร้อมชวนไทยร่วมโปรแกรมสร้างชุมชนแห่งสันติสุข โดยสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพในเร็วๆ นี้

เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2568 ณ ห้องรับรองประจำกระทรวงยุติธรรม ชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรม, พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และคณะ ประกอบด้วย นายรวิศ สอดส่อง หัวหน้าคณะทำงาน รมว.ยุติธรรม, น.ส.นรีลักษณ์ แพไชยภูมิ ผู้อำนวยการกองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม, น.ส.อทิตยา ทองบุญ ผู้อำนวยการ กองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ฯลฯ ร่วมให้การต้อนรับ นายมาซากอส ซุลกิฟลี รมว.พัฒนาสังคมและครอบครัวรัฐมนตรีคนที่สอง กระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีกำกับดูแลด้านกิจการมุสลิม สาธารณรัฐสิงคโปร์ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการ ในห้วงการเยือนประเทศไทย

ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็น การติดตามผลการหารือระหว่างทั้งสองฝ่ายในช่วงการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยชุมชนแห่งความสำเร็จ (International Conference on Communities of Success : ICCOS) ครั้งที่ 2 ซึ่ง พ.ต.อ. ทวี ได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เมื่อวันที่ 14 – 15 ต.ค. 2567 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ รวมทั้งแ นวทางการส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างกันเกี่ยวกับการเสริมสร้างการพัฒนาชุมชนชาวมุสลิม และการสร้างเครือข่ายผู้นำชุมชนมุสลิมที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย

โดย นายมาซากอส ได้ชื่นชมบทบาทการนำของ พ.ต.อ. ทวี ในการส่งเสริมสันติภาพ พัฒนาศักยภาพประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ รวมทั้งยินดีร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศไทย ทั้งด้านการประสานความสัมพันธ์ การพัฒนาศักยภาพ การให้ทุนการศึกษา การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในทุกมิติ ฯลฯ แก่ชาวมุสลิมที่อยู่ในประเทศไทย เพื่อให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีฯ สิงคโปร์ได้เชิญชวนให้ประเทศไทยเข้าร่วมโปรแกรมการสร้างชุมชนแห่งสันติสุข โดยสิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพ เพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพใน 3 หัวข้อ คือ 1) การจัดมัสยิดในวัฒนธรรมสมัยใหม่ 2) การเสริมสร้างคุณค่าในครอบครัว รวมถึงการช่วยเหลือคู่สมรสที่กำลังมีบุตร และ 3) การพัฒนาความเป็นผู้นำชุมชน พร้อมทั้งได้เชิญ รมว.ยุติธรรมเข้าร่วมการประชุม ICCOS ในครั้งถัดไป โดยสิงคโปร์ยินดีและพร้อมสนับสนุนกระทรวงยุติธรรมในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์และแนวปฏิบัติในประเด็นข้างต้น ซึ่งการหารือข้อราชการในครั้งนี้นับเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสิงคโปร์ให้มีความแน่นแฟ้น ซึ่งจะนำไปสู่การขับเคลื่อนความร่วมมือในสาขาอื่น ๆ ให้มีความก้าวหน้าต่อไป.