สตง. จับมือ สทอภ. ใช้ ’เทคโนโลยีอวกาศ-ภูมิสารสนเทศ’ยกระดับการตรวจสอบเงินแผ่นดิน


นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน แถลงว่า วันนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2568) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (สทอภ.) โดย นายปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ สทอภ. ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศในการตรวจเงินแผ่นดิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศและองค์ความรู้ด้านการตรวจสอบ เพื่อยกระดับการตรวจเงินแผ่นดินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการเชื่อมโยงฐานข้อมูล การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการตรวจสอบ และการศึกษาวิจัยร่วมกัน ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารและผลการดำเนินงานร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน โดยมีนางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ร่วมเป็นเกียรติในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนหน่วยงานภาครัฐสู่รัฐบาลดิจิทัล ณ ห้องดำริอิศรานุวรรต สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
โฆษกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันนำเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการสำรวจและติดตามการดำเนินโครงการของรัฐ รวมถึงการดูแลทรัพย์สินของหน่วยงานของรัฐ เพื่อช่วยวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงในการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ นอกจากนี้ จะมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อมูลทางวิชาการ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและ การดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยทั้งสองหน่วยงานจะดำเนินการตามขอบเขตความร่วมมือที่กำหนดไว้ และติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน
“องค์ความรู้และเทคโนโลยีจาก สทอภ. จะช่วยให้การตรวจสอบของ สตง. มีมิติเชิงลึกและครอบคลุมทุกพื้นที่ และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลด้านดิจิทัล ความร่วมมือในครั้งนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของการตรวจเงินแผ่นดินไทยในการนำเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศมาใช้ในการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลการดำเนินงานของภาครัฐ ซึ่งจะทำให้สามารถเฝ้าระวังและประเมินความเสี่ยงของโครงการต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ตลอดจนช่วยให้การบริหารจัดการงบประมาณของประเทศเป็นไปอย่างโปร่งใสและคุ้มค่า” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในตอนท้าย.