นายกสมาคมทรัพย์สินทางปัญญาแห่งประเทศไทย ยกคณะเข้าหารือความก้าวหน้าของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ร่วมกรมทรัพย์สินทางปัญญา ด้าน “อธิบดีฯนุสรา” แจงชัด! กฎหมายหลายฉบับคืนหน้าไปมาก ชมเปราะ “ผู้บริหารสมาคมฯ” ให้ความสำคัญทรัพย์สินทางปัญญา ย้ำ! พร้อมบูรณาการความร่วมมือ พ่วงแลกเปลี่ยนความเห็นปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หวังเพิ่มประสิทธิภาพให้ทันสมัย อำนวยความสะดวกการค้า และสร้างเป็นรูปธรรมให้เร็วสุด

นางสาวนุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ นายสืบสิริ ทวีผล นายกสมาคมทรัพย์สินทางปัญญาแห่งประเทศไทย และคณะฯ ว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ สมาคมทรัพย์สินทางปัญญาแห่งประเทศไทย ให้ความสำคัญในการดำเนินภารกิจของกรมฯในทุกๆ ด้าน ซึ่งปัจจุบัน กรมฯ ได้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ในส่วนของร่าง พ.ร.บ. สิทธิบัตร ซึ่งอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็นก่อนเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ขณะที่ร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ และร่าง พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ อยู่ระหว่างรอบรรจุวาระเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และขณะนี้กรมฯ อยู่ระหว่างเตรียมการยกร่างกฎหมายการจัดเก็บค่าตอบแทนการใช้งานอันมีลิขสิทธิ์และสิทธิของนักแสดง เพื่อตอบรับนโยบาย soft power ของรัฐบาลเพื่อให้การจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์มีความโปร่งใส สะดวกแก่ผู้ใช้งาน และมีมาตรฐานเท่าเทียมกับต่างประเทศ

สำหรับ การหารือประเด็นด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่มีความสำคัญนอกเหนือจากการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายหรือการเสนอร่าง พ.ร.บ. คือ การทำ Data mining การปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงได้เชิญผู้แทนสมาคมเข้าร่วมสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อจัดทำจรรยาบรรณตัวแทนสิทธิบัตร และหลักเกณฑ์การต่ออายุการขึ้นทะเบียนตัวแทนสิทธิบัตร ตลอดจนสอบถามเรื่องการปรับเปลี่ยนมาใช้อากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamp) ทดแทนการติดอากรแสตมป์ในเอกสารหนังสือมอบอำนาจประกอบคำขอต่างๆ สำหรับคำขอจดทะเบียนที่ยื่นผ่านระบบ E- Filing ของกรมฯ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในไตรมาสแรกของปี 2568 ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการติดอากรแสตมป์ไม่ถูกต้อง และยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ตัวแทนสิทธิบัตรในการยื่นคำขอจดทะเบียนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ท้ายนี้ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังได้กล่าวขอบคุณผู้แทนสมาคมทรัพย์สินทางปัญญาแห่งประเทศไทยที่ได้ให้ความร่วมมือกับกรมฯ เป็นอย่างดีมาโดยตลอดในการให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นต่อการปรับปรุงกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาให้เข้มแข็ง รัดกุม และมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยหวังว่าจะได้ร่วมกัน พัฒนาระบบนิเวศด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP Ecosystem) ของประเทศให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ต่อไป.