น้ำใจหน่วยงานรัฐไทย ร่วมช่วย ‘2 เหยื่อไทย’ ปมเชจูแอร์ ไถลตกรันเวย์ ตายเกือบยกลำ
หน่วยงานภาครัฐของไทยร่วมให้ความช่วยเหลือ “2 ผู้เสียชีวิตชาวไทย” จากเหตุร้ายเครื่องบินเชจูแอร์ ไฟล์ทบินจากกรุงเทพ ไถลตกรันเวย์ในสนามบินมูอัน เกาหลีใต้ “เลขาธิการ คปภ.” สั่งเร่งตรวจสอบคุ้มครองด้านประกันภัย พร้อมให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน ขณะที่ “เอ็มดี. ธอส.” ร่วมมอบสินไหมทดแทนให้ลูกค้าในโครงการคุ้มนิรันดร์ สั่งปลดหนี้คงค้างทั้งหมด ด้าน “ผู้จัดการ กยศ.” เร่งตรวจสอบแล้ว หากพบเป็นลูกหนี้เงินกู้การศึกษา พร้อมระงับหนี้ให้ทั้งก้อน
ตามที่ปรากฏเป็นข่าว กรณีอุบัติเหตุเครื่องบินสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) เที่ยวบินที่ 7C 2216 ซึ่งออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าสู่สนามบินมูอัน เมืองชอลลานัมโด สาธารณรัฐเกาหลี และได้ประสบเหตุ ไถลออกนอกรันเวย์และ ชนกำแพงในขณะลงจอด เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 09.07 น. ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้เกิดการระเบิดและเพลิงไหม้อย่างรุนแรง เบื้องต้นมีผู้โดยสารและลูกเรือ รวมทั้งสิ้น 181 คน โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวน 179 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ได้รับการยืนยันเป็น ผู้เสียชีวิตสัญชาติไทย 2 ราย
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) กล่าวว่า สำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยของประเทศ ได้ดำเนินการเร่งตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัยของผู้เสียชีวิตชาวไทยในเหตุการณ์ดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตคนไทย จำนวน 2 ราย คือ นางสาวจงลักษ์ ดวงมณี ได้ทำประกันชีวิตกับบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2581 ทุนประกันชีวิตจำนวน 200,000 บาท และได้ทำประกันอุบัติเหตุและสุขภาพกับบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2568 ทุนประกัน 100,000 บาท สำหรับอีกราย คือ นางสาวสิริธร จะอื่อ ได้ทำประกันภัยกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับนักเรียนนิสิต และนักศึกษา (แบบพิเศษ) จำนวนเงินเอาประกันภัย 200,000 บาท กับบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เริ่มความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้ประสานบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับทายาทของผู้เสียชีวิต เมื่อได้รับเอกสารครบถ้วนแล้ว
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง ต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนี้ และขอร่วมไว้อาลัยต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่าหน่วยงานจะดำเนินการอย่างเต็มกำลังเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยแก่ครอบครัวผู้ประสบเหตุทุกกรณี” เลขาธิการ คปภ. ระบุ
ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์จากการประกันภัย หรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อ สายด่วน คปภ. 1186
ด้าน นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์อุบัติเหตุข้างต้น ธอส. ขอส่งกำลังใจให้กับครอบครัวผู้ประสบเหตุทุกท่าน ขณะเดียวกันในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมเคียงข้างครอบครัวผู้ประสบเหตุที่เป็นลูกค้าธนาคาร ด้วยการร่วมมอบสินไหมทดแทน ภายใต้ประกันชีวิตโครงการคุ้มนิรันดร์ ให้แก่ผู้เอาประกันที่เป็นลูกค้าของธนาคารที่ได้ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) จำนวน 1 ราย โดยบริษัทประกันชีวิต (บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)) ดำเนินการจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนในการปลดภาระหนี้สินที่ค้างชำระของธนาคารตามเงื่อนไขความคุ้มครอง เพื่อให้หลักประกันเป็นกรรมสิทธิ์ของทายาท อีกทั้งยังส่งมอบเงินค่าสินไหมส่วนที่เหลือจากการปิดบัญชีให้แก่ทายาทต่อไป
ขณะนี้ ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า จากกรณีเหตุการณ์เครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ประสบอุบัติเหตุระหว่างลงจอดที่ท่าอากาศยานมูอัน สาธารณรัฐเกาหลี เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 และพบว่ามีผู้โดยสารเป็นคนไทย 2 ราย นั้น กยศ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น และขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวของผู้ประสบเหตุการณ์ดังกล่าว โดย กยศ. อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลของผู้เสียชีวิต หากพบว่าเป็นผู้กู้ยืม กยศ. จะระงับหนี้ให้กับผู้กู้ยืมทั้งหมด.