อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ผสาน “กรมการค้าภายใน” และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ในฐานะ “ทีมพาณิชย์” คุมเข้มตรวจสอบการนำเข้า-ส่งออกมัน เส้น หลังพบมีการนำเข้ามันเส้นคุณภาพต่ำตามชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ 3 จังหวัด คือ สุรินทร์ สระแก้ว และอุบลราชธานี เผย! สั่งดำเนินคดีแล้ว 19 ราย 

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงแนวทางการคุมเข้มมาตรฐานมันเส้นนำเข้า-ส่งออก ว่า เป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะช่วยให้แผนการขยายตลาดส่งออกมันเส้นของกรมฯและเป็นไปตามนโยบายมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ที่กำหนดแนวทางการรักษาเสถียรภาพราคามันสําปะหลัง ฤดูกาลผลิตปี 2567/68ซึ่งเป็นไปตาม มติคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) ที่มี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน โดยขณะนี้เป็นช่วงที่ เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังของไทย รวมไปถึงเกษตรกรกัมพูชา และสปป.ลาว เริ่มขุดหัวมันสดออกมาจำหน่าย ส่งผลให้นี้ไปจนถึงประมาณเดือนเมษายน 2568 จะมีผลผลิตมันสำปะหลังของไทยและประเทศเพื่อนบ้านออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก จำเป็นต้องคุมเข้มการตรวจสอบทั้งด้านการนำเข้าและส่งออกให้เป็นไปอย่างเข้มข้น ป้องกันไม่ให้มีผลกระทบกับเสถียรภาพราคามันสำปะหลังภายในประเทศ

อย่างไรก็ตาม กรมฯ ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมมาตรฐานมันเส้นนำเข้า-ส่งออก จึงได้ผนึกกำลังร่วมกับกรมการค้าภายใน โดยมีหน้าที่ควบคุมการขนย้ายมันเส้น ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกระหว่างกัน เพื่อนำข้อมูลมาใช้ประกอบการตรวจสอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2567 ชุดตรวจของ กรมฯพบผู้นำเข้ามันเส้นคุณภาพต่ำ 1 ราย ที่จังหวัดสุรินทร์ จึงได้ลงโทษโดยระงับการนำเข้าทันทีจนกว่าจะดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้ตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงปัจจุบัน กรมฯ ได้ลงโทษผู้ประกอบการที่นำเข้ามันเส้นคุณภาพต่ำไปแล้ว 19 ราย

ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้สั่งให้ชุดตรวจของ คต. ลงพื้นที่ตรวจสอบมันเส้นนำเข้าต่อเนื่องอีก 3 จังหวัด คือ สุรินทร์ สระแก้ว และอุบลราชธานี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการตรวจสอบมาตรฐานมันเส้นที่นำเข้าจะเป็นไปอย่างเข้มข้น ในส่วนการคุมเข้มมาตรฐานมันเส้นส่งออกก็ได้ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน โดยชุดตรวจของ คต. ได้กระจายตัวลงพื้นที่คุมเข้มตามโกดังส่งออก และพบผู้ส่งออกมันเส้นรายใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดอยุธยา มีมันเส้นที่มีดินทรายเกือบ 5% ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องไม่เกิน 3% จึงได้คัดแยกสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานดังกล่าวออกทันที เพื่อไม่ให้ไปปะปนกับสินค้าที่ได้มาตรฐาน

“ทั้ง 2 กรม ถือเป็น “ทีมพาณิชย์” และยังได้ประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่เพื่อให้ทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ประกอบการแต่ละราย เพื่อให้เจ้าหน้าปฎิบัติงานที่ได้รู้ถึงพฤติกรรมเขาแล้ว การปฏิบัติงานภาคสนามก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น” อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ย้ำ.