ตร. พบอีก! ‘สามารถ’ รีดไถบริษัทด้านการลงทุน 5 แสนต่อเดือน แลกไม่ร้องเรียน
รอง ผบช.ก.เผยพบ “สามารถ” รีดไถเงินบริษัทด้านการลงทุนอีก 1 คดี ข่มขู่ให้จ่ายรายเดือน 5 แสนบาท แลกกับการไม่ร้องเรียน ผู้เสียหายต่อรองเหลือ 2 หมื่นบาท
วันที่ 2 ธ.ค.2567 ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีของ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเส้นเงินประมาณ 4-5 แสนบาท ที่เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ จึงเรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำและแจ้งความคดีกรรโชกทรัพย์ไว้แล้ว ทำให้ตอนนี้นายสามารถจะต้องถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก 1 คดี โดยให้ กก.2 บก.ป. เป็นผู้รับผิดชอบ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า โดยผู้เสียหายรายนี้เป็นผู้ประกอบการที่เปิดบริษัทเกี่ยวกับการลงทุน ซึ่งมีเอกสารยืนยันการทำธุรกิจอย่างถูกต้องมาตลอด แต่ปรากฏว่านายสามารถได้ติดต่อไปข่มขู่ว่า บริษัทมีจุดหมิ่นเหม่ที่จะผิดกฎหมาย ทางบริษัทก็พยายามจะชี้แจง แต่นายสามารถก็ไม่รับฟัง และเรียกรับเงิน โดยตอนแรกเรียกเดือนละ 5 หมื่นบาท ผู้เสียหายจึงต่อรองเหลือเดือนละ 2 หมื่นบาท ซึ่งมีการจ่ายมาหลายเดือน รวมเป็นเงินประมาณ 4-5 แสนบาท ลักษณะแผนประทุษกรรมจะคล้ายกับกรณีของ น.ส.กฤษอนงค์ ที่อ้างว่าตัวเองมีความรู้แล้วเข้าไปเรียกรับเงินจากผู้เสียหาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับนายสามารถในเรือนจำเร็ว ๆ นี้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนกำลังสอบสวนอยู่ แต่มีเส้นเงินและชัดเจนแล้วว่ามีการบังคับขู่เข็ญ ทำให้ผู้เสียหายต้องยอมจ่ายเงินจำนวนนี้ นอกจากนี้ยังพบเส้นเงินอีกเกือบ 2 ล้านบาท ที่เชื่อมโยงไปยังบุคคลใกล้ชิดของ นายสามารถ โดยเป็นเงินที่นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล และนายกลด เศรษฐนันท์ หรือบอสปีเตอร์โอนมาให้ ซึ่งเรื่องนี้ได้เรียกบุคคลใกล้ชิดคนดังกล่าวมาสอบปากคำแล้ว พบว่าให้การเป็นประโยชน์ แต่คดีหลักตอนนี้อยู่ที่ดีเอสไอ ซึ่งคาดว่าดีเอสไอจะต้องไปสอบสวนเพิ่มเติมเพราะยังไม่มีข้อมูลเรื่องเส้นเงินนี้
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสามารถประท้วงอดอาหารจนมีอาการป่วยว่า “อย่าทำแบบนี้เลย ถ้ามีความผิด ศาลก็จะต้องพิจารณาตามพยานหลักฐาน ไม่ใช่ว่าจะผูกคอตาย หรืออดอาหารตายแล้วศาลจะให้ประกันตัว ไม่งั้นก็ได้ประกันกันหมดแล้ว กระบวนการยุติธรรม มีหลักเกณฑ์ พิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป ดังนั้น อย่าทำเพื่อจะได้รับการประกันตัว ขอให้ไปสู้กันในชั้นศาลดีกว่า” รอง ผบช.ก. กล่าว