“โฆษกคลัง” ในฐานะ ผู้บริหารแผนฟื้นฟูจากภาครัฐ ย้ำ! รัฐไม่เพิ่มทุนเกิน 49% เหตุไม่ต้องการนำการบินไทยกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจ ยืนยัน! การเพิ่มสัดส่วนผู้บริหารตัวแทนภาครัฐอีก 2 คน ไม่กระทบการทำงานแน่ ด้าน “ดร.ปิยสวัสดิ์” หวั่น! อำนาจรัฐรุกหนัก จ้องเข้าควบคุมการตัดสินใจดำเนินงานจนกระทบการบริหารงานในอนาคต

กลายเป็นอีกประเด็นฮ็อต! ระหว่างการแถลงข่าวขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 9,822.5 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4.48 บาท ให้กับ ถือหุ้นเดิมก่อนการปรับโครงสร้างทุนที่มีที่อยู่ในประเทศไทย พนักงานของบริษัทฯ และบุคคลในวงจำกัด ตามลำดับ ระหว่างวันที่ 6 – 12 ธันวาคม 2567 ของ คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการและคณะผู้บริหาร บมจ.การบินไทย ภายใต้การนำของ ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ เมื่อช่วงสายวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ​ที่ผ่านมา (อ่านต่อ…บินไทย’รุกต่อ! ขายหุ้นเพิ่มทุน 9.8 พันล้านหุ้น ราคา 4.48 บาท/หุ้น – ตั้งเป้าเข้าเทรดในตลาดหุ้นกลางปีหน้า https://yutthasartonline.com/strategies/105973)

โดยเฉพาะ ประเด็นแรงต่อต้านจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ที่ไม่ต้องการจะเห็นการเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการจำนวน 2 ท่าน ซึ่งเป็นตัวแทนจากกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม ด้วยเกรงจะเป็นช่องทางให้อำนาจรัฐและการเมืองเข้ามาแทรกแซงการดำเนินงานของ บมจ.การบินไทย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ “โฆษกกระทรวงการคลัง” ในฐานะ ผู้บริหารแผนฟื้นฟู ตัวแทนจากภาครัฐ กล่าวว่า การจะเพิ่มผู้บริหารแผนฯอีก 2 ท่านหรือไม่? ขึ้นกับการพิจารณาของที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตาม การมีตัวแทนจากภาครัฐเข้ามาร่วมในคณะกรรมการบริหาร ก็น่าจะช่วยทำให้การประสานงานในเรื่องต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า การมีตัวแทนจากกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม จะไม่ทำให้การบริหารของ บมจ.การบินไทย เบี่ยงเบนไปจากการดำเนินงานในปัจจุบัน ซึ่งมีคณะผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพบริหารจัดการ จนการดำเนินงานในปัจจุบันประสบผลสำเร็จอย่างเป็นอยู่ โดยหากมีผู้บริหารหรือกรรมการท่านใด ดำเนินการในสิ่งที่ขัดกับหลักการในการบริหารงานที่ดีก็จะต้องรับผิดชอบกับผลของการกระทำนั้นๆ เอง

ขณะที่ ดร.ปิยสวัสดิ์ กล่าวทิศทางตรงกันข้ามในประเด็น…การมีผู้แทนจากภาครัฐเข้าร่วมเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ โดยอ้างอิงจำนวนผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯที่มีจำนวน 3 คนในปัจจุบัน ว่า การตัดสินใจทำได้เร็วกว่าก่อนหน้านี้ที่เคยมีผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯจำนวน 5 คน ทั้งนี้ หากกลับไปสู่การมีผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ 5 คนแล้ว การตัดสินใจและการดำเนินงานอาจเกิดความล่าช้าจากที่เคยเป็นอยู่ ส่วนที่ระบุว่า ตัวแทนที่เพิ่มขึ้นอีก 2 คนจะช่วยทำให้การประสานงานกับรัฐบาลทำได้เร็วขึ้นนั้น ไม่น่าจะใช้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ก็มีคณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อประสานงานอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า บมจ.การบินไทย ในช่วงระหว่างการฟื้นฟูกิจการจะไม่กลับไปสู่ความเป็นรัฐวิสาหกิจอย่างแน่นอน เนื่องจากกระทรวงการคลังและหน่วยงานของรัฐ ถือหุ้นรวมกันในปัจจุบันไม่เกิน 44% และ นายพรชัย ในฐานะผู้แทนกระทรวงการคลัง ก็พูดย้ำชัดว่า ภาครัฐจะถือหุ้นรวมกันไม่เกิน 49% หากต้องเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในอนาคต

“การเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่? ไม่สำคัญเท่ากับการที่เป็นบริษัทเอกชนแต่ถูกอำนาจรัฐเข้ามาควบคุมการตัดสินใจและการดำเนินงาน จนกลายเป็นอุปสรรคต่อการบริหารงานของการบินไทย” ดร.ปิยสวัสดิ์ ย้ำ.