พาณิชย์เบรกห้ามขึ้นราคาน้ำมันถั่วเหลือง หวั่นพ่อค้าฉวยโอกาสขยับราคา ชวนห้างร่วมจัดโปรฯดูแลผู้บริโภค
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน “กรนิจ โนนจุ้ย” สั่งห้ามขยับราคาน้ำมันถั่วเหลือง หลังราคาน้ำมันปาล์มสูงขึ้น เหตุผลผลิตเข้าตลาดมีไม่มาก ขอความร่วมมือห้างใหญ่ทั่วประเทศร่วมจัดโปรโมชั่นดูแลผู้บริโภค พร้อมออกตรวจการจำหน่ายราคาน้ำมันถั่วเหลือง ชี้! ยังเป็นปกติ วอนประชาชนพบราคาผิดปกติแจ้งสายด่วน 1569
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า ผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองจะปรับขึ้นราคาจำหน่าย ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์ปัจจัยที่กระทบต่อต้นทุนการผลิตน้ำมันถั่วเหลือง ปัจจุบัน ยังไม่มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบจนเป็นเหตุให้ต้องมีการปรับราคาจำหน่ายน้ำมันถั่วเหลือง จึงได้ให้ผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองระงับการปรับขึ้นราคาจำหน่ายไว้ก่อน พร้อมร่วมมือกับห้างค้าส่ง-ปลีก ห้างท้องถิ่น ทั่วประเทศ จัดทำโปรโมชั่น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนผู้บริโภค
สำหรับสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการหารือร่วมกับสมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม ถึงแนวทางการบริหารจัดการสต็อกน้ำมันปาล์มให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทั้งความต้องการบริโภคและการใช้ในภาคพลังงาน โดย สมาคมฯ ได้ให้ความร่วมมืองดการส่งออกน้ำมันปาล์มในช่วงนี้ จนกว่าสถานการณ์ผลผลิตปาล์มน้ำมันจะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มตั้งแต่ มกราคม 2568 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกัน กรมการค้าภายใน ได้หารือร่วมกับห้างค้าส่งค้าปลีกและห้างท้องถิ่น ถึงสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะน้ำมันพืชบรรจุขวด โดยกรมฯขอความร่วมมือผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดชะลอการปรับราคาออกไปให้นานที่สุด และขอความร่วมมือห้างค้าส่ง/ค้าปลีก จำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดให้อยู่ในระดับราคาที่ไม่เป็นภาระต่อประชาชน โดยห้างยินดีให้ความร่วมมือในการตรึงราคาน้ำมันพืช พร้อมจัดโปรโมชั่นเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจสถานการณ์การจำหน่ายน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม ในห้างค้าปลีกค้าส่ง พบว่า ราคายังเป็นปกติ และทางห้างยังมีการจัดรายการโปรโมชั่นส่งเสริมการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นผลดีต่อผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในได้ติดตามสถานการณ์ราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด กรณีมีการปรับราคาจะต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับต้นทุนที่สูงขึ้นและไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคมากจนเกินไป และหากตรวจสอบพบการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายจะมีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยประชาชนหากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569.