SME D Bank ‘เติมทุนคู่พัฒนา’ หนุนเครื่องดื่มกล้วยผง ‘ดีปาษณะ’ ต่อยอดธุรกิจโตทวีคูณ

‘ดีปาษณะ’ เครื่องดื่มกล้วยผง นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มทวีคูณ! SME D Bank ปลดล็อกอุปสรรคการเงิน ต่อยอดการตลาด หนุนธุรกิจโตก้าวกระโดด

กล้วยธรรมดา รับซื้อกันแค่ลูกละ 50 สตางค์ แต่หากมาทำเป็นกล้วยผง มูลค่ากล้วยหนึ่งลูกจะเพิ่มเป็น 10 บาททันที หรือสูงถึง 20 เท่าเป็นอย่างน้อย และหากทำเป็นสารสกัดจากกล้วย มูลค่าจะเพิ่มขึ้นอีกทวีคูณ ล้วนเกิดจาก “นวัตกรรม” ที่ทำให้วิสาหกิจชุมชนบ้านสบายใจ จ.สมุทรสงคราม เติบโตก้าวกระโดดในเวลาไม่กี่ปี สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สุดว้าวออกสู่ตลาดต่อเนื่อง

แต่จะตั้งต้นทำนวัตกรรมไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เพราะต้องใช้ทั้งองค์ความรู้และเงินทุน ล้วนเป็นข้อจำกัดของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี แต่ “วิสาหกิจชุมชนบ้านสบายใจ” ก็พร้อมหาหน่วยงานสนับสนุน ทั้งด้านนวัตกรรม หรือสถาบันการเงิน จนมาพบกับ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ที่ให้บริการ “เติมทุนคู่พัฒนา” ช่วยให้ธุรกิจเติบโตก้าวกระโดด

“ศุภลักษณ์ บัวโรย” ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านสบายใจ ผู้ขับเคลื่อนนวัตกรรม ยกระดับกล้วย เล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจ ว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านสบายใจ ก่อตั้งเมื่อปี 2557 ผลิตสินค้าเกษตรแปรรูป เลือก “กล้วย” มาเป็นวัตถุดิบหลัก โดยครั้งแรกทำของพื้น ๆ อย่าง กล้วยตาก วางขายที่ตลาดน้ำอัมพวา แต่เจอปัญหาว่า กล้วยตากมีเจ้าตลาดอยู่แล้ว และอายุการเก็บรักษาไม่นาน แถมยังไม่สามารถตั้งราคาขายให้สูงขึ้น

จึงเกิดไอเดียพัฒนาสินค้าที่เป็นของใหม่ ที่ยังไม่มีใครทำ สามารถกำหนดราคาขายเองได้ และมีอายุการเก็บรักษาที่นานขึ้น ที่สำคัญต้องเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์อยู่ในขณะนั้น พร้อมสร้างโอกาสเข้าร่วมโครงการสนับสนุนต่าง ๆ จนได้ทุนวิจัยจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ นำมาสู่ผลิตภัณฑ์กล้วยผงสำหรับชงดื่มเป็นเจ้าแรกของประเทศ ซึ่งเก็บรักษาได้นานถึง 15 เดือน

คุณศุภลักษณ์ เล่าว่า “ดีปาษณะ” (DPASANAA) คือ แบรนด์ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกล้วย ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม มาเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าทางการเกษตร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้ดีขึ้น มีผลิตภัณฑ์เจ๋ง ๆ อย่าง เครื่องดื่มกล้วยผง เครื่องดื่มจากหัวปลี น้ำกล้วยสกัดเข้มข้น และไซรัปกล้วย เป็นต้น ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือแบรนด์นี้เกิดจากวิสาหกิจชุมชนเล็ก ๆ มีสมาชิกแค่ 20 คน และอยู่ในจังหวัดที่มีขนาดเล็กสุดในประเทศไทย คือ จ.สมุทรสงคราม

“เป็นที่ทราบกันดีว่า จ.สมุทรสงคราม มีพืชเกษตรหลัก คือ มะพร้าว ลิ้นจี่ และส้มโอ ขณะที่ กล้วย มีปลูกกันทุกสวนให้ผลผลิตตลอดทั้งปี แต่กลับไม่ค่อยเห็นคุณค่า เราจึงมองว่าถ้านำกล้วยมาแปรรูปหรือเพิ่มมูลค่าได้ เกษตรกรก็มีรายได้ตลอดทั้งปี ช่วยแก้ปัญหาผลผลิตราคาตกต่ำ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย”

ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมกล้วยผง ไม่มีคอเลสเตอรอล โซเดียมต่ำ ไขมันน้อย มีน้ำตาลน้อยกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานสรรพสามิตกำหนด ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ผู้มีปัญหากรดไหลย้อน โรคกระเพาะ และยังมีพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้อีกด้วย

“จากจุดเริ่มต้น กล้วยตากที่วางขายได้แค่ตลาดน้ำอัมพวา วันนี้สินค้าที่เกิดจากนวัตกรรม สามารถวางจำหน่าย ทั้งร้านของฝาก ร้านสินค้าเพื่อสุขภาพ ขายผ่านตัวแทนจำหน่าย รวมถึงผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นตลาดหลัก ช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรควบคู่ด้วย เพราะผลักดันให้ราคารับซื้อผลผลิตปรับขึ้นตามไปด้วย”

เป้าหมายที่ฝันไว้ คืออยากเห็นคนไทยอย่างน้อย 1 ล้านคน รับประทานผลิตภัณฑ์ของ “ดีปาษณะ” ในทุกเช้า เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น แต่การก้าวไปสู่ฝัน จำเป็นต้องมีผู้สนับสนุน โดยเฉพาะทางด้านเงินทุน ที่ได้รับการสนับสนุนจาก  SME D Bank มาช่วยปลดล็อก ทำให้เรากล้าลงทุน ขยายโรงงานผลิต ซื้อตู้อบและซื้อเครื่องจักรบางส่วนเพิ่มเข้ามา เรียกว่าเป็นช่วงที่ธุรกิจเริ่มขยาย ทำให้ธุรกิจผลิตได้ทัน ไม่ต้องเสียโอกาสทางด้านการขาย และมีรายได้เพิ่มเข้ามา ควบคู่กับการส่งเสริมด้านการตลาด เปิดพื้นที่วางขายสินค้าที่สำนักงาน มีลูกค้าให้ความสนใจจำนวนมาก

แผนธุรกิจในอนาคต เราไม่หยุดพัฒนาสินค้านวัตกรรม และยังคงทำวิจัยต่อเนื่องทุกปี เพื่อผลิตสินค้าตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค เพราะเชื่อว่าการทำธุรกิจหลังจากนี้ ผู้ประกอบการต้องสู้และแข่งขันในเรื่องของนวัตกรรม ถ้าไม่มีนวัตกรรมเป็นของตัวเอง วันหนึ่งก็จะมีคนมาเลียนแบบได้ พร้อมยึดมั่นในวิสัยทัศน์ “เราจะเป็นนวัตกรรมเกษตรทางด้านอาหารสุขภาพอันดับหนึ่งของคนไทย” คือ ผู้บริโภค  เกษตรกร  และผู้ผลิต ต้องได้รับประโยชน์ร่วมกัน.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password