บสย.เดินเครื่องเร่งแก้หนี้ SMEs ผ่าน 2 มาตรการเด่น! ‘ขยายวงเงิน PGS 10 + เพิ่มสีฟ้า’
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/12/00000-ปกรวม-HOMEกร-บสย.jpg)
“เอ็มดี.บสย.” กวักมือเรียกลูกหนี้ SMEs ทั้งกลุ่มแสดงตนและพวกซ่อนตัว เข้าร่วมมาตรการใหม่ “สีฟ้า” ที่ขยับมาตรการ 3 สีให้เข้มข้นขึ้น แค่จ่ายเพิ่ม 75% ของมูลหนี้ก็เป็นไทแล้ว เซฟเหลือๆ ได้มากถึง 15% จ่อชงเข้าที่ประชุม ครม. ทั้ง “มาตรการสีฟ้า – ขยายวงเงินพร้อมต่ออายุ PGS10” ตั้งเป้าช่วยผู้ประกอบการ SMEs ที่มีวินัยผ่อนชำระดี แก้หนี้ทั้งในและนอกระบบได้เร็วขึ้น
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/12/P4-1.jpg)
โอกาสดีๆ มาถึงแล้ว สำหรับลูกหนี้เอสเอ็มอี ทั้งกลุ่มที่แสดงตนเข้าร่วมโครงการแก้หนี้อย่างยั่งยืนผ่านมาตรการ 3 สี (สีม่วง,เหลือง,เขียว) มาก่อนหน้านี้ และ กลุ่มที่ไม่เคยแสดงตนมาก่อน หลังจาก บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้เตรียม 2 มาตรการเสริมสำคัญสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/12/สิทธิกร-บสย.-4.jpg)
นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวว่า ภายในเดือนธันวาคม 2566 นี้ บสย.เตรียมเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย 1.การขอขยายกรอบวงเงินค้ำประกันเดิม โครงการ SME เข้มแข็ง หรือ PGS10 (ส่วนต่อขยาย) จำนวน 3,000 ล้านบาท จากเดิมที่มีวงเงิน 50,000 ล้านบาทและใช้หมดไปแล้ว คาดว่าจะช่วยลูกหนี้และกลุ่มอิสระ รวมถึงกลุ่มลูกหนี้ที่ใช้เงินทุนนอกระบบมากกว่า 60,000 ราย ภายใต้โครงการ Small Biz โดยใช้กลไกค้ำประกันสินเชื่อร่วมกับธนาคารออมสิน ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเรื่องไปให้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้พิจารณาแล้ว คาดจะนำเข้า ครม.ภายในเดือน ธ.ค.นี้
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/12/สิทธิกร-บสย.-5.jpg)
และ 2.ขยายความช่วยผู้ประกอบการแก้หนี้อย่างยั่งยืนผ่านมาตรการ 3 สี (สีม่วง,เหลือง,เขียว) เป็นมาตรการ 4 สี โดยจะเพิ่มมาตรการสีฟ้าขึ้นมาใหม่ เพื่อช่วยให้ลูกหนี้ดี มีวินัยการผ่อนชำระซึ่งอยู่ในกลุ่มสีเขียว มีผลใช้ทั้งปี 2567 โดยจะชงเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด บสย.พิจารณาเร็วๆ นี้ เพื่อส่งเรื่องดังกล่าวให้ ครม.พิจารณาในโอกาสต่อไป
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/12/P3-1.jpg)
ทั้งนี้ การขอขยายกรอบวงเงินค้ำประกันโครงการ PGS10 และมาตรการ 4 สี คาดว่าจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการราวต้นปี 2567 โดยมาตรการ 4 สี จะมีการเปิดให้ลูกหนี้กลุ่มสีเขียวที่ได้รับการประนอมหนี้แล้ว ลงทะเบียนภายใน 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.67) บนช่องทาง LINE @ TCG First และศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงินเอสเอ็มอี F.A.Center และศูนย์ย่อยที่จะมีขึ้นใน 10 สาขาของ บสย. พร้อมให้คำแนะนำเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งในกลุ่มของสีเขียว ที่ได้ชำระมาแล้วก่อนหน้านี้ 10% ของวงเงินสินเชื่อ และหากจ่ายเพิ่มอีกเพียง 75% (รวมที่จ่ายก่อนหน้านี้เท่ากับ 85%) ก็สามารถจะปลดหนี้ทั้งก้อนได้แล้ว คาดว่าจะมีลูกหนี้กว่า 95,000 รายจากกลุ่มสีเขียวนี้ ลงทะเบียนเพื่อเป็นกลุ่มสีฟ้า
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/12/P2-1.jpg)
“ในส่วนของมาตรการ 4 สี ผมอยากเรียกร้องให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นลูกหนี้และเข้าร่วมมาตรการ 3 สี มาก่อนหน้านี้ ได้เขยิบสถานะของตัวเอง จากสีในปัจจุบัน เช่น จากสีม่วง เปลี่ยนเป็นสีเหลือหรือสีเขียว และจากสีเหลืองเป็นสีเขียว เพื่อไปสู่โอกาสเข้าร่วมมาตรการสีฟ้า รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ไม่เคยแสดงตน หรือไม่เคยเข้าร่วมมาตรการนี้มาก่อน ได้เข้าร่วมมาตรการ 4 สี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้ประกอบการเอสเอ็มอี” นายสิทธิกร กล่าวและว่า
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/12/สิทธิกร-บสย.-3.jpg)
ส่วนงบประมาณที่ใช้ในมาตรการ 4 สี จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินของ บสย. เนื่องจากได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไปแล้วก่อนหน้านี้ ในทางกลับกัน จะส่งผลดีต่อ บสย. เนื่องจากได้รับเงินใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 75% ทำให้มีสภาพคล่องเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเอง ก็จะได้ปลดภาระความเป็นลูกหนี้และดำเนินธุรกิจของตัวเองโดยไม่มีพันธะใดๆ ที่สำคัญภาครวมอุตสาหกรรมเอสเอ็มอีและระบบเศรษฐกิจโดยรวมก็จะได้ประโยชน์จากมาตรการใหม่ของ บสย.ด้วย
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/12/P1.jpg)
ภาพรวมผลการดำเนินงานรอบ 11 เดือน ณ 24 พ.ย.66 อนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ วงเงิน 107,179 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อ 96,461 ราย (80% ของเอสเอ็มอีกลุ่ม Micro) สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 442,649 ล้านบาท สร้างสินเชื่อในระบบ 117,597 ล้านบาท รักษาการจ้างงาน 811,239 ตำแหน่ง มีฐานลูกค้า SMEs สะสมรวมกว่า 815,312 ราย จำแนกสัดส่วนการค้ำประกันสินเชื่อรายภูมิภาค อันดับ 1 กรุงเทพฯและปริมณฑล 45% อันดับ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15% อันดับ 3 ภาคใต้ 13% อันดับ 4 ภาคเหนือ 11% อันดับ 5 ภาคตะวันออก 9% อันดับ 6 ภาคกลาง 4% และ อันดับ 7 ภาคตะวันตก 3%
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/12/สิทธิกร-บสย.-2.jpg)
กลุ่มอุตสาหกรรมที่ค้ำประกันสูงสุด ได้แก่ 1.ธุรกิจบริการ สัดส่วนค้ำฯ 30% วงเงิน 32,113 ล้านบาท (รับเหมา ภัตตาคาร ร้านอาหาร ธุรกิจขนส่งโรงแรมและหอพัก บริการท่องเที่ยว) อัตราการเติบโต 3% อันดับ 2.การผลิตสินค้าและการค้าอื่น สัดส่วนการค้ำฯ 11% วงเงิน 11,378 ล้านบาท (ค้าวัสดุก่อสร้าง ค้าปลีกและแผงลอย ตลาดสด ค้าของเก่าและโทรศัพท์มือถือ) 3.เกษตรกรรม สัดส่วนค้ำฯ 10% วงเงิน 10,652 ล้านบาท (ค้าส่งผัก ผลไม้ ค้าชากาแฟ การค้าเกษตร ปศุสัตว์ ค้าส่งข้าว) 4.กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และ 5.กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคในภาคท่องเที่ยว ครองสัดส่วน 68% โดย บสย.คาดการณ์ว่าสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในช่วงขาลงในปี 2567 ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการปรับตัวดีขึ้น
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/12/033A4478-1.jpg)
โดย บสย.ได้เตรียมขับเคลื่อนองค์กรสู่ TCG Sustainability BCG-ESG ภายใต้แกนหลัก “ค้ำประกันสินเชื่อ” มีผู้ประกอบการ SMEs เป็นศูนย์กลาง ได้แก่ 1.เพิ่มโอกาสและเติมเต็มศักยภาพทางการเงิน เข้าถึงแหล่งทุนเพิ่มมากขึ้น 2.เพิ่มความรู้ เติมความเข้าใจ ยกระดับการให้คำปรึกษาทางการเงินและธุรกิจ และการช่วยลูกหนี้ สร้างโอกาสทางธุรกิจ จากโครงการจับคู่ธุรกิจ เชื่อมโยงผู้ประกอบการในรูปแบบ Business Matching 3. เพิ่มบทบาทการช่วยลูกหนี้แก้หนี้ยั่งยืน
ทั้งนี้ ภายใต้ บทบาทด้านการค้ำประกัน SMEs บสย. มีสัดส่วนค้ำประกันสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 6 ปี ตั้งแต่ปี 2562 คาดว่า ในปี 2566 สัดส่วนการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน จะเพิ่มเป็น 29% ของยอดค้ำประกันสินเชื่อวงเงิน 1,486,812 ล้านบาท.
You may also like
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2024/07/บสย.2.jpg)