อีสท์สปริง ผสานกลยุทธ์ระดับโลก ตอบโจทย์ทางเลือกเพื่อการลงทุนคนไทย

อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ประกาศวิสัยทัศน์รับแบรนด์ใหม่ในฐานะมืออาชีพการลงทุนชั้นนำด้านกองทุน ผ่าน 3กลยุทธ์หลัก หนุนเข้าถึงความต้องการนักลงทุนทุกกลุ่ม ครอบคลุม พร้อมเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จ วางรากฐานของอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ ในไทยให้เติบโตมั่นคง

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ การเติบโต และความแข็งแกร่ง วันนี้เราพร้อมแล้วกับการส่งมอบประสบการณ์การลงทุนที่มีคุณภาพแก่นักลงทุนชาวไทย ภายใต้แบรนด์ใหม่อย่าง บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ผ่านกลยุทธ์สามเสาหลักที่จะเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนธุรกิจจากทีมงานคุณภาพ เพื่อนำเสนอทางเลือกในการลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้หลากหลาย ให้สอดคล้องกับเป้าหมายความมุ่งมั่นของแบรนด์ Eastspring Investments ที่จะดูแลการลงทุนเพื่ออนาคตของคุณหรือ Invested in Your Future บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM Eastspring) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด (Thanachart Fund Eastspring) ซึ่งถือเป็นการควบรวมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในตลาดการเงินและการลงทุนของประเทศไทย สัดส่วนผู้ถือหุ้นล่าสุด (ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2565) ของบลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ได้แก่ กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลถือหุ้นอยู่ที่ 59.5% และธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต ถือหุ้นอยู่ที่ 40.5% ปัจจุบัน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ครองส่วนแบ่งทางการตลาดกองทุนรวม 7% และมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการสุทธิ (Asset under management หรือ AUM) อยู่ที่ 342,390 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2565) และติดอันดับ 6 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ เป็นผู้จัดการสินทรัพย์ชั้นนำระดับโลกของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดเอเชียและตลาดโลกอย่างลึกซึ้ง มากว่า 28 ปี บริษัทมีสำนักงานสาขาในตลาดเอเชีย 11 แห่ง และสำนักงานสนับสนุนการขายสินทรัพย์ ในภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรป พร้อมด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนกว่า 300 คนโดยมีสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการรวมทั้งหมดคิดเป็นมูลค่ากว่า 258พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา: อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ (สิงคโปร์) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564) ขณะที่ TMBAM Eastspring และ Thanachart Fund Eastspring  นั้นเป็นบริษัทจัดการกองทุนที่ดำเนินธุรกิจในไทยมาอย่างยาวนานเกือบ 30 ปี ทำให้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและมุมมองเชิงลึกในตลาดการลงทุนไทย พร้อมด้วยภาพลักษณ์ของการเป็นผู้นำในการนำเสนอนวัตกรรมที่ทันสมัยในการจัดการการลงทุนเสมอมา

นายอดิศร กล่าวต่อไปว่า การขับเคลื่อนธุรกิจของ อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ให้เติบโตไปอีกขั้นในฐานะผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านการลงทุนที่แข็งแกร่งเพื่อผู้ลงทุนชาวไทย บริษัททำผ่านกลยุทธ์ 3 เสาหลัก ประกอบด้วย

1. Global Access with Asia Focus – ปัจจุบันการลงทุนในต่างประเทศเป็นแนวโน้มสำคัญที่ผู้ลงทุนชาวไทยไม่อาจมองข้าม เพราะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดี มีตัวเลือกหลากหลายกว่า ข้อมูลของบลูมเบิร์กปี 2558 – 2564 พบว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยจากการลงทุนต่างประเทศให้ผลตอบแทนสูงถึง 11.5% ต่อปี เทียบกับหุ้นไทยซึ่งอยู่ที่เพียง 4.7% ต่อปี (ที่มา: บลูมเบิร์ก) ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนว่า โอกาสการลงทุนต่างประเทศมีแนวโน้มโตสูงกว่าแค่การลงทุนในประเทศ ซึ่งช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้นำการออกกองทุนต่างประเทศที่ครอบคลุม หลากหลาย ยิ่งเมื่อผนึกกำลังกับ Eastspring Investments ที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในระดับสากล ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มมุมมองทางเลือกในการคัดสรรกองทุนจากหลากหลายประเภทสินทรัพย์เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้สร้างผลตอบแทนได้ดียิ่งขึ้น

2. Investment Advisory & Market Insights อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เชื่อว่าการจัดสรรพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายหรือ Asset Allocation เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในระยะยาว เนื่องจากไม่มีสินทรัพย์ใดที่ให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพตลาดและภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ ยิ่งทำให้การกระจายการลงทุนเป็นสิ่งที่สำคัญ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ซึ่งร่วมมือกับอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ สิงคโปร์ มีแผนนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมการลงทุนใน Multi-asset ที่จะออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้ ก่อนหน้านี้ อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ร่วมกับทีเอ็มบีธนชาต ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุน ทีทีบี สมาร์ท พอร์ต (ttb smart port) พอร์ตการลงทุนสำเร็จรูปแนวใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ โดยประกอบด้วย 5 พอร์ตการลงทุนสำเร็จรูป ที่ลูกค้าสามารถเลือกลงทุนได้เองตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยจากการเปิดขายครั้งแรกเมื่อเดือน มิถุนายน 2564 ระดมทุนได้ประมาณหนึ่งหมื่นล้านบาท จนปัจจุบันผ่านมา 1ปีมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการรวม 22,936 ล้านบาท (ข้อมูล เดือน มิถุนายน 2565) (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย)) ซึ่งคาดว่ากองทุน ทีทีบี สมาร์ท พอร์ต (ttb smart port) จะเป็นกองทุนหลักอีกหนึ่งกองทุนของบลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ในอนาคต

นอกจากนี้ ด้วยจุดแข็งจากความเข้าใจในตลาดไทยมายาวนานและการเข้าถึงข้อมูลการลงทุนในระดับโลก บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เน้นทางการให้ความรู้และคำแนะนำการลงทุน รวมถึงรายงานข้อมูลต่างๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ และการวิเคราะห์ตลาดกับผู้ลงทุน ในรูปแบบต่างๆ เช่น การจัดสัมมนาออนไลน์ FB Live และการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆอย่างต่อเนื่อง

3. Holistic Health & Wealth – ด้วยจุดแข็งสำคัญที่มีผู้ถือหุ้นหลักคือกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล (Prudential) ผู้ให้บริการทางการเงินระดับสากล อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เชื่อมั่นว่าการผสานกันระหว่างแนวคิดความมั่งคั่งที่มาพร้อมความมั่นคงจะต่อยอดความสำเร็จในโอกาสการลงทุนแก่ผู้ลงทุนได้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบัน บริษัทมีประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-linked) ที่ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนผ่านพรูเด็นเชียลทั้งหมด 16 กองทุน นอกจากนี้ยังร่วมมือกันเพื่อยกระดับการบริการด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีกด้วย.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password