พอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคล SCAP ครึ่งปีแรกโตเกิน 30% มั่นใจคุม NPL ต่ำกว่า 1.5%

SCAP ส่งสัญญาณการฟื้นตัวสินเชื่อส่วนบุคคล ดันผลงานครึ่งปีแรกพอร์ตโตเพิ่มขึ้นทะลุ 30% สะท้อนดีมานด์สินเชื่อเพิ่มขึ้นหลังโควิดคลี่คลาย แย้มขยายฐานลูกค้า P-Loan เจาะกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีและกลุ่มเจ้าของกิจการ เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ ยืนยันคุม NPL ได้ต่ำกว่า 1.5% หนุนกำไรปี 65 โตไม่หยุด

นายวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล (SCAP) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan หรือ P-Loan) ช่วงครึ่งปีแรก 2565 ว่า พอร์ตสินเชื่อเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่องจากอานิสงส์การผ่อนปรนมาตรการโควิดของภาครัฐหลังสถานการณ์เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มที่มีประวัติและความมั่นคงทางการเงินดี แต่ขาดสภาพคล่องชั่วคราวหรือต้องการทางเลือกเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่นๆ เป็นกลุ่มที่มีความสามารถชำระหนี้สูง ส่งผลให้เกิดการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและสามารถควบคุมเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 1.5% ช่วยสนับสนุนให้รายได้และกำไรในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตเพิ่มขึ้น ทั้งนี้จากการขยายตัวสินเชื่อส่วนบุคคลของบริษัทสอดคล้องกับข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่พบว่า สินเชื่อส่วนบุคคลมีสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 และขยายตัวต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้

สำหรับครึ่งหลังปี 2565 บริษัทมีแผนขยายการเติบโตด้วยการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ได้แก่ กลุ่มลูกค้า SME และกลุ่มเจ้าของกิจการ ที่มีความจำเป็นในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระดับสูงเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจหรือเพิ่มสภาพคล่อง แต่ขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มใหม่จะสร้างรายได้ได้ดี ทั้งนี้การขยายกลุ่มลูกค้าจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับสินเชื่อรายย่อยแบบไม่มีหลักประกันให้เติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต

นายวิชิต กล่าวต่อไปว่า จากตัวเลขข้อมูลบริษัท เชื่อว่าเริ่มเห็นการฟื้นตัวของสินเชื่อส่วนบุคคลแน่ชัดแล้ว และคาดว่าความต้องการจะยังมีต่อเนื่องไปจนจบปี 65 ทำให้มั่นใจเรื่องการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น เพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการชำระหนี้เป็นทุนเดิม  ซึ่งปัจจุบันบริษัทสามารถคุมเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 1.5% ที่ถือว่าต่ำมากได้ ขณะเดียวกันก็ยังคงควบคุมคุณภาพสินเชื่อตามมาตรฐาน

“ก้าวต่อไปผมเตรียมโฟกัสกลุ่ม SME และกลุ่มเจ้าของกิจการ สองกลุ่มนี้น่าสนใจตรงที่เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้แต่ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง จึงมองว่าจะเป็นโอกาสสำหรับเราในการเติบโตจากฐานลูกค้าใหม่ และในปี 66 บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อให้ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น” นายวิชิต กล่าว.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password