“รมช.คลัง” ออกโรงแจงข้อมูลจริง ชี้! ผู้ให้บริการสินเชื่อ “พิโกไฟแนนซ์” มีทั้งขอปิดกิจการและเปิดใหม่ แต่ยอดเปิดใหม่มีมากกว่าเอยะ ระบุ! ตัวเลข ณ มิ.ย.2568 พบยอดสะสม “ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตใหม่” นับแต่ปี 2560 รวม 1,414 ราย ขณะที่ “ผู้ขอคืนใบอนุญาต” มีแค่ 104 ราย ย้ำ! ตัวเลขหนี้เสีย ณ มี.ค.2568 มีแค่ 23.40% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เคยมี 23.69%

กรณีมีกระแสข่าวเกี่ยวกับ ผู้ให้บริการสินเชื่อ “พิโกไฟแนนซ์ (Pico Finance)” หรือการให้ “สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด” ที่อยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลัง (มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสินเชื่อจำนวนไม่มากและอาจไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน) แห่ปิดกิจการ และคืนใบอนุญาตกว่า 104 ราย เพราะมีหนี้เสียจำนวนมากนั้น

ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (11 มิ.ย.2568) ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ดังนี้…

1. พิโกไฟแนนซ์ ณ มิถุนายน 2568 มี “ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตใหม่” พิโกไฟแนนซ์สะสมตั้งแต่ปี 2560 จำนวน 1,414 ราย และมี “ผู้ขอคืนใบอนุญาต” พิโกไฟแนนซ์สะสม จำนวน 106 ราย หากดูข้อมูลในแต่ละปี ในปี 2566 มีผู้ที่ได้รับใบอนุญาตใหม่ 47 ราย มีผู้ขอคืนใบอนุญาต 18 ราย และ ในปี 2567 มีผู้ที่ได้รับใบอนุญาตใหม่ 40 ราย มีผู้ขอคืนใบอนุญาต 22 ราย

2. จะเห็นได้ว่า ในแต่ละปีมีจำนวนผู้ที่ได้รับใบอนุญาตใหม่ มากกว่าผู้ขอคืนใบอนุญาต ส่งผลให้มีจำนวนผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงไม่เป็นตามกระแสข่าวว่าพิโกไฟแนนซ์แห่ปิดตัวแต่อย่างใด เพราะการพิจารณาต้องวิเคราะห์ทั้ง “ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตใหม่” และ “ผู้ขอคืนใบอนุญาต” ไม่ใช่พิจารณาเพียงแค่ผู้ขอคืนใบอนุญาตอย่างเดียว

3. สำหรับ สถานการณ์หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ข้อมูลล่าสุด เดือนมีนาคม 2568 มี NPL คิดเป็นร้อยละ 23.40 ซึ่งปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ร้อยละ 23.69 จะเห็นได้ว่า NPL ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามที่เป็นข่าว

4. ณ สิ้นมีนาคม 2568 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยสะสม จำนวนทั้งสิ้น 5,081,240 บัญชี เป็นจำนวนเงินรวม 50,066.09 ล้านบาท โดยเป็น ยอดสินเชื่อคงค้าง 393,010 บัญชี เป็นจำนวนเงินรวม 7,429.15 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ยังคงอนุมัติสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง.