“มนพร” เปิดท่าเรือพระราม 7 “ท่าเรือยุคใหม่ สะดวก ปลอดภัย เทคโนโลยีก้าวไกล ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ผลักดัน “ท่าเรือโดยสารอัจฉริยะ” พร้อมเปิดแผนพัฒนาท่าเรืออีก 17 แห่ง ให้ครบทั้ง 29 แห่ง

นางมนพร เจริญศรี รมช.กระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดท่าเรือพระราม 7 เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา ว่า ได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่า (จท.) พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะทางน้ำให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตลอดจนเชื่อมโยงกับระบบขนส่งรูปแบบอื่น พร้อมส่งเสริมการเดินทางทางน้ำและการท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา สู่ท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Pier ) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม ภายใต้นโยบาย “คมนาคม เพื่อโอกาสประเทศไทย” และ “ราชรถยิ้ม” เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ ด้วยการเชื่อมโยงโครงข่าย “ล้อ – ราง – เรือ” อย่างไร้รอยต่อ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยทั้งประเทศ

ทั้งนี้ ท่าเรือพระราม 7 เป็น 1 ในท่าเรือที่ได้รับการยกระดับให้เป็นท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Pier) เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่เมืองและแหล่งท่องเที่ยว โดยเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง จท. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ด้วยพื้นที่ใช้สอย 700 ตารางเมตร มีโป๊ะเทียบเรือขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ ระบบวัดอุณหภูมิเพื่อคัดกรองคนมีไข้ก่อนเข้าพื้นที่ และ AI จดจำใบหน้า กล้องวงจรปิด ระบบแจ้งเตือนการรับน้ำหนักโป๊ะเทียบเรือ ระบบแสงไฟอัจฉริยะ ทางลาดและห้องน้ำผู้พิการ รวมถึงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตพลังงานหมุนเวียน ระบบไฟอัจฉริยะที่เปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา และสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger) ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ในปี พ.ศ. 2570 จะมีปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางด้วยระบบสาธารณะทางน้ำเฉลี่ย 53,000 คนต่อวัน ซึ่งสามารถลดก๊าซเรือนกระจก ประมาณ 280,230 ตัน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

ด้าน นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวเพิ่มเติมว่า จท. มีแผนพัฒนาท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา 29 แห่ง ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ 12 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือกรมเจ้าท่า สะพานพุทธ นนทบุรี  สาทร ท่าช้าง ท่าเตียน ราชินี พายัพ บางโพ พระราม 5 พระปิ่นเกล้า พระราม 7 และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง 2 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือปากเกร็ด มีความคืบหน้า 68% คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2568 และ ท่าเรือเกียกกาย (กทม. เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง) โดยได้รับจัดสรรงบประมาณ ปี 2568 จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือเทเวศร์ และโอเรียนเต็ล ดำเนินการขอ งบประมาณปี 2569 จำนวน 13 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือราชวงศ์ สี่พระยา พรานนก ซังฮี้ ท่ารถไฟ วัดตึก วัดสร้อยทอง วัดเขมา เขียวไข่กา พิบูลย์สงคราม 1 วัดเทพนารี วัดเทพากร และพิบูลย์สงคราม 2 

ทั้งนี้ รมช.คมนาคม ได้เป็นประธานในพิธีเปิดท่าเรือพระราม 7 โดยมี นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ ที่ปรึกษารมช.คมนาคม นายประภูศักดิ์ จินตะเวช เลขานุการ รมว.คมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม นายอำเภอบางกรวย นายกเทศมนตรีอำเภอบางกรวย สมาคมเรือไทย สถานีตำรวจภูธรอำเภอบางกรวย รวมทั้งประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธีฯ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ณ ท่าเรือพระราม 7 อ.บางกรวย จ.นนทบุรี.