บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ลงนามซื้อขายที่ดิน 125 ไร่ ในโครงการ ARAYA – The Eastern Gateway กับ บริษัท อินฟินีออน เทคโนโลยีส์ แมนูแฟคเชอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ อินฟินีออน ตั้ง โรงงานผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ (Back End Production) ขยายฐานการผลิตในเอเชีย มีแผนเปิดดำเนินการในต้นปี 2569

บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ (ARAYA THE EASTERN GATEWAY) ได้ลงนามซื้อขายที่ดิน 125 ไร่ ภายในโครงการ ARAYA – The Eastern Gateway กับ บริษัท อินฟินีออน เทคโนโลยีส์ แมนูแฟคเชอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ อินฟินีออน เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ (Back End Production) ขยายฐานการผลิตในเอเชีย รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของโมดูลพลังงาน และสนับสนุนการเติบโต

โดย โรงงานแห่งนี้มีแผนเปิดดำเนินการในต้นปี 2569 โดยอินฟินีออนเป็นผู้นำระดับโลกด้านเซมิคอนดักเตอร์ในระบบพลังงาน และIoT โดยครองส่วนแบ่งการตลาด 21.3% ในปี 2567 นอกจากนี้อินฟินีออนยังครองตำแหน่งผู้นำตลาดในตลาดไมโครคอนโทรลเลอร์ระดับโลกอีกด้วย

นางสาว กมลกาญจน์ คงคาทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท อินฟินีออน เทคโนโลยีส์ แมนูแฟคเชอริ่ง (ประเทศไทย) ในเครือ Infineon Technologies AG ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของโลกจากประเทศเยอรมนีให้ความไว้วางใจเลือกซื้อที่ดินในโครงการ ARAYA – The Eastern Gateway เพื่อพัฒนาเป็นฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับ ทำเลที่ตั้งบน Super Prime Location ใกล้กรุงเทพฯที่สุด โดยตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ ณ กิโลเมตรที่ 32 ถนนบางนา-ตราด จังหวัดสมุทรปราการ เอื้อให้การคมนาคมในประเทศ และต่างประเทศเป็นไปได้อย่างราบรื่น เพราะสามารถเชื่อมต่อไปสู่ทางพิเศษกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ (Motorway) ใกล้กับท่าเรือกรุงเทพเพียง 40 นาที และสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 20 นาทีเท่านั้น

ด้านสาธารณูปโภคได้มาตรฐานระดับสากล ทั้งด้านพลังงานที่มีเสถียรภาพ การใช้พลังงานหมุนเวียน ระบบอินเทอร์เน็ต พื้นที่โครงการขนาดใหญ่ที่สามารถเติมเต็มทุกความต้องการ, การสนับสนุนจากภาครัฐ ตลอดจนความใส่ใจในเรื่องความยั่งยืนที่ได้มาตรฐานซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โครงการ ARAYA – The Eastern Gateway ได้รับการพัฒนาให้เป็น “The First Industrial Tech Ecosystem in Thailand” หรือ ระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรม และนวัตกรรมครบวงจรรูปแบบใหม่ ซึ่งพร้อมรองรับดีมานด์จากผู้ประกอบการกลุ่มนี้

ทั้งนี้โรงงานนี้มีแผนเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการภายในปี 2569 ขับเคลื่อนด้วยแนวคิดการลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonization) และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Digitalization) ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โรงงานผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ของอินฟินีออนถูกออกแบบมาให้รองรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง มีความยืดหยุ่น และมีคุณภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการในอนาคตสำหรับโมดูลพลังงานในภาคอุตสาหกรรม และพลังงานหมุนเวียน รวมถึงเสริมความแข็งแกร่งให้กับความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ อินฟินีออนยังมีแผนจัดตั้ง “ศูนย์วิจัย และพัฒนาสำหรับผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์” เพื่อใช้สนับสนุนการดำเนินงานในโครงการ รวมถึงบริษัทในเครือที่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย

ขณะเดียวกัน โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดยโรงงานที่มีระบบอัตโนมัติขั้นสูงจะมีบทบาทสำคัญในการกระจายการผลิตของอินฟินีออน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการ ต่อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผลักดันการลดคาร์บอน และการปกป้องสภาพภูมิอากาศทั่วโลกอีกด้วย

“โครงการ ARAYA – The Eastern Gateway มุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทย โดยเราหวังว่าการลงทุนครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน เชื่อมโยงประเทศไทยเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และมีส่วนช่วยยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมไทยในระยะยาว” คุณกมลกาญจน์ กล่าว.