บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ร่วมกับ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดตัว “สิทธิประโยชน์การค้ำประกัน สำหรับผู้ประกอบการอาชีพอิสระ” ที่เป็นสมาชิกของ กอช. เพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่าง 2 องค์กร เปิดโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนในระบบ เสริมสภาพคล่องให้แก่กลุ่มอาชีพอิสระ ณ ศูนย์การเรียนรู้ TCG Learning Center บสย. ชั้น 2 อาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568

ความร่วมมือในครั้งนี้ สืบเนื่องจากปี 2566 ซึ่ง บสย. และ กอช. ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ส่งเสริมการดำเนินกิจกรรมอย่างเป็นระบบ และสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs – Start up ทั้งกลุ่มนักเรียนอาชีวศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษา และกลุ่มผู้ต้องขังที่กำลังพ้นโทษ ในการให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ส่งเสริมและสร้างภูมิคุ้มกันบริหารเงินทุนอย่างมีระบบด้วยการออม เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ ก่อนเริ่มต้นการทำธุรกิจ ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็นกลไกสำคัญในตลาดแรงงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กับประเทศ

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า ปัจจุบัน บสย. มีลูกค้าสะสม หรือผู้ประกอบการ SMEs ที่ บสย. ค้ำประกันสินเชื่อกว่า 882,000 ราย เป็นผู้ประกอบการรายย่อย Micro SMEs ถึง 79% ขณะที่ กอช. ซึ่งมีฐานสมาชิกกว่า 2 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นอาชีพอิสระ และผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 700,000 ราย ซึ่งจากการยกระดับและต่อยอดความร่วมมือระหว่าง บสย. และ กอช. ในครั้งนี้ จะช่วยให้กลุ่มอาชีพอิสระ และ Micro SMEs รายย่อยที่เป็นลูกค้า บสย. สามารถเข้าถึงการออมเงินของ กอช. ขณะที่กลุ่มอาชีพอิสระและผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นสมาชิก กอช. ที่ขาดหลักประกันสินเชื่อสามารถเข้าถึงสินเชื่อผ่านกลไกการค้ำประกันของ บสย. ได้เช่นกัน 

สำหรับสิทธิประโยชน์ด้านการค้ำประกันสินเชื่อที่ กลุ่มอาชีพอิสระ และผู้ประกอบการรายย่อย ที่เป็นสมาชิก กอช. จะได้รับในระยะเริ่มต้น คือ เมื่อยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน โดยใช้ บสย. ค้ำประกันสินเชื่อ จะได้รับสิทธิ์ ฟรี! ค่าดำเนินการค้ำประกัน และฟรีค่าธรรมเนียมสูงสุด 4 ปี โดยมีระยะเวลาค้ำประกันสูงสุดถึง 10 ปี โดยสมาชิก กอช. สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ และยืนยันการเป็นสมาชิก กอช. ได้ที่ LINE OA : @tcgfirst และสามารถใช้สิทธิ์ในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 พร้อมเข้ารับการอบรมด้านธุรกิจกับ บสย. ฟรี! นอกจากนี้ บสย. ยังเปิดให้ SMEs สามารถเข้ามาตรวจสุขภาพทางการเงิน พร้อมจองคิวขอรับคำปรึกษาทางการเงินได้ที่ LINE OA : @tcgfirst ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บสย. Call Center โทร. 02-890-9999

“ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการรวมช่องทาง LINE OA ของ บสย. และแพลตฟอร์มออนไลน์ของ กอช. เข้าด้วยกันเพื่อยกระดับการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพอิสระ และ SMEs รายย่อย ทั้งมิติของการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และการออมเงิน สอดรับตามวิสัยทัศน์ของ บสย. ในการเป็น SMEs’ Gateway ศูนย์กลางเชื่อมโยงเงินทุนและโอกาสให้แก่ SMEs เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน” นายสิทธิกร กล่าว  

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมทักษะการวางแผนทางการเงินให้กับประชาชน โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพอิสระ และผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าถึงช่องทางการออมเงินเพื่อให้มีบำนาญใช้ในวัยเกษียณ ผ่าน กอช. พร้อมสร้างความตระหนักรู้ให้กับเยาวชน เห็นถึงความสำคัญของการออมเงินเพื่ออนาคต เพราะชีวิตหลังเกษียณไม่ควรมีคำว่ากังวล จึงอยากเชิญชวนทุกท่านมาร่วมออมกับ กอช. เพื่อชีวิตที่มั่นคง

ผู้ที่สนใจสมัครเป็นสมาชิก กอช. ต้องมีอายุระหว่าง 15 – 60 ปี ไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 , 39 , 40 (ทางเลือก 2 และ 3) รวมถึงไม่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยสามารถออมเงินได้ตั้งแต่ 50 บาท สูงสุด 30,000 บาทต่อปี พร้อมรับเงินสมทบจากรัฐสูงสุดถึง 100% หรือ 1,800 บาทต่อปี ตามช่วงอายุ ดังนี้ อายุ 15 – 30 ปี รัฐสมทบ 50% ของเงินออมแต่ละครั้ง สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี, อายุ 31 – 50 ปี รัฐสมทบ 80% ของเงินออมแต่ละครั้ง สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี และ อายุ 51 – 60 ปี รัฐสมทบ 100% ของเงินออมแต่ละครั้ง สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี

นอกจากนี้ เงินออมใน กอช. ยังสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนจริง สูงสุด 30,000 บาทต่อปี และยังได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน ไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน เฉลี่ย 7 ธนาคาร ณ วันที่สมาชิกอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์

ผู้ที่สนใจสามารถสมัครและส่งเงินออม ได้สะดวก และรวดเร็ว ผ่านทางแอปพลิเคชัน “กอช.” หรือทาง  ไลน์ @nsf.th รวมถึงศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.nsf.or.th และ เฟซบุ๊ก “กองทุนการออมแห่งชาติ – กอช.” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สายด่วนเงินออม โทร. 02-049-9000.