กกต. ประกาศรับรอง 500 ส.ส.แล้ว ขณะ “ไพศาล” เผย ก้าวไกล และ พรรคร่วมรัฐบาล จัดสรรเก้าอี้ รมต.ลงตัว เปิดแผน”พิธา”เตรียมปราศรัยใหญ่สื่อไทย และ สื่อต่างชาติ หลังถวายสัตย์ฯ พร้อมเล็ง รือฟื้น คตง. ตรวจสอบการใช้เงินแผ่นดิน

วันที่ 19 มิ.ย.2566 เวลา 15.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงผลการประชุม กกต.ว่า สำนักงาน กกต.ได้เสนอผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขต 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน พร้อมผลการตรวจสอบเบื้องต้นว่าการเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ โดยคณะกรรมการกกต.ได้ตรวจสอบและพิจารณาแล้วเห็นว่าให้ประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต 400 เขต บัญชีรายชื่อครบ 100 คน

นายแสวงกล่าวต่อว่า กระบวนการหลังจากนี้ กกต.ยังมีอำนาจพิจารณาการสืบสวนไต่สวนตามมาตรา 138 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 หมายความว่า หลังการเลือกตั้งหากมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริต กกต.จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง

การที่กกต.ประกาศรับรองผลไปก่อน เนื่องจากกระบวนการสืบสวนสอบสวนผู้ถูกร้องเรียนอาจดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และเห็นว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อีกทั้งขณะนี้มีการอ้างพยานหลักฐานเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยในจำนวน ส.ส. 400 เขต พบว่ามี ส.ส.ที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้ง 318 คน ถูกร้องคัดค้านการเลือกตั้ง 82 คน อย่างไรก็ตาม ส.ส.ที่ กกต.ประกาศรับรองสามารถมารับหนังสือรับรองได้ตั้งแต่วันที่ 20-24 มิถุนายน เวลา 08.30-16.30 น.ไม่เว้นวันหยุดราชการ

เลขาฯกกต.กล่าวอีกว่า ส่วนจำนวนคะแนนเสียงที่เป็นคะแนนดีนำมาคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมีทั้งสิ้น 31,522,698 คะแนน โดยสัดส่วนคะแนนต่อ ส.ส. 1 คน คือ 375,226 คะแนน เมื่อคำนวณแล้วมีจำนวน 17 พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้ง ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 39 คน พรรคเพื่อไทย 29 คน พรรครวมไทยสร้างชาติ 13 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน พรรคภูมิใจไทย 3 คน พรรคประชาชาติ 2 คน ส่วน พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคท้องที่ไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคเป็นธรรม พรรคพลังประชารัฐ พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคเสรีรวมไทย และ พรรคใหม่ ได้พรรคละ 1 คน

ด้าน นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุว่า…อัพเดทการเมืองไทย

1.การขัดขวางฉันทามติของประชาชน 27 ล้านคน อ่อนกำลังลง การจัดตั้งรัฐบาลที่มี ก.ก.และ พท.เป็นแกนนำก้าวหน้าไปมาก

การประชุมพรรคร่วมล่าสุดมีข่าวว่าการแบ่งงานกระทรวงต่าง ๆ ลงตัว การวางตัวรัฐมนตรีหลักเรียบร้อยแล้ว ส่วนตำแหน่งประธานรัฐสภาได้ตกลงหลักการแล้ว แต่จะประชุมอีกครั้งหนึ่งหลัง กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง ส่วนคณะกรรมการรับถ่ายโอนอำนาจก็กำลังประสานงานกับข้าราชการประจำอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น

2.แผนงานที่คณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าถวายสัตย์นั้น เน้นการถวายความจงรักภักดีเทิดทูนพระมหากษัตริย์ และจะถวายสัตย์ครบถ้วนตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ จากนั้นนายกรัฐมนตรีในฐานะ”รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” จะปราศรัยกับประชาชนชาวไทยเป็นครั้งแรก มีสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศถ่ายทอดการปราศรัยครั้งสำคัญนี้ และน่าจะไม่ช้ากว่า15 วันหลังรับรองการเลือกตั้ง

3.ในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก จะมีการรับทราบการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองตำแหน่งต่าง ๆ ให้มากที่สุดเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินสามารถขับเคลื่อนได้ทันทีและ เรื่องเร่งด่วนเรื่องหนึ่ง คือ การปรับปรุงคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.)เพื่อฟื้นฟูสำนักตรวจสอบรายได้ภาครัฐของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งถูกยุบไป ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์

ทั้งนี้เพื่อฟื้นฟูให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐถูกต้องครบถ้วน และป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น เพราะมีการหลีกเลี่ยงภาษีเงินได้มหาศาล และเพื่อลดภาระในการก่อหนี้ เพื่อนำมาชดเชยงบประมาณอันเนื่องจากการจัดเก็บรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย!!!!

แหม น่าจะอนุมัติเงินค่ากู้เรือรบหลวงสุโขทัย แค่200ล้านบาทด้วย เพราะเรือรบหลวงลำนี้จมอยู่ใต้ทะเลร่วม 7 เดือนแล้ว หากช้าไปกว่านี้ก็คงเป็นปะการังเทียมใต้ทะเล และน่าจะแก้ไขปัญหาเร่งด่วนร้ายแรงที่สุดที่ยังหมักหมมอยู่ในวาระแรกๆด้วย.