“ไทยเพรซิเดนท์ฟู้ดส์ ” ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า” ดิ้นขอขึ้นราคา จาก 5บาท/ซอง เป็น 7บาท/ซอง ชี้แบกรับต้นทุนไม่ไหวแล้ว ขณะพาณิชย์ ยังไม่อนุญาติ ขอผู้ประกอบการช่วยเหลือปชช.ก่อน

วันที่ 2 ก.ค.2565 นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ “มาม่า” เปิดเผยว่า จากสภาวะวิกฤตด้านต้นทุนในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทต้องแบกรับภาระ และทำให้ต้องปรับราคาขายจากเดิม 5 บาท/ซอง เป็น 7 บาท/ซองนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรออนุมัติจาก กระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากเป็นสินค้าควบคุม ซึ่งทำให้บริษัทต้องปรับรูปแบบการขายใหม่ๆ มากขึ้น ทั้งการสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ในการบริโภค ล่าสุดพัฒนาโมเดล MAMA Shop ผ่านรูปแบบร้านอาหารมีที่นั่งรับประทาน 20-30 ที่นั่ง ลงทุนแห่งละ 8-9 แสนบาท เตรียมเปิดสาขาในทำเลปั๊มน้ำมัน บนเส้นทางถนนหลวง สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น สวนสยาม ดรีมเวิลด์ อุทยานต่างๆ เน้นกลุ่มคนเดินทาง นักท่องเที่ยว

ทางด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวว่าในกรณีที่ มาม่า ขอปรับราคาหน่ายอีก2บาทนั้น กรมการค้าภายใน กำลังพิจารณาอยู่ โดยส่วนตัวตนเห็นใจอย่างยิ่ง เพราะต้นทุนสูงขึ้นจริง ขณะที่ กรมการค้าภายใน พยายามช่วยดูเจรจาว่าจะสามารถผ่อนปรนการตรึงราคาได้นานแค่ไหน ทั้งนี้ ขอขอบคุณผู้ประกอบการจำนวนมากที่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์และกรมการค้าภายในอย่างดียิ่ง เข้าใจถึงสถานการณ์ช่วยกันแบกรับภาระ แม้ต้นทุนจะสูงขึ้นจริงหลายรายการ ทั้งต้นทุนวัตถุดิบค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้า ค่าพลังงาน กระทรวงพลังงานพยายามดูแลอยู่อย่างเต็มที่และเป็นต้นทุนที่สูงขึ้นทั่วโลก แต่กระทรวงพาณิชย์ แม้เป็นปลายทาง แต่เราขอความร่วมมือพยายามหามาตรการทางออกร่วมกันก่อน

ส่วนการกำกับดูแลไม่ให้เกิดการเอาเปรียบผู้บริโภคในลักษณะ กักตุน ปฏิเสธการขาย หรือค้ ากำไรเกินควร ตนสั่งการไปแล้วปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานในระดับประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในระดับจังหวัด มีพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดเป็นผู้ช่วยเข้าไปติดตามตรวจสอบการดำเนินคดี สั่งการแล้วว่าถ้าทำผิดกฎหมายต้องดำเนินคดี กรณีไหนเข้าข่ายการค้ากำไรเกินควรให้ใช้มาตรา 29 หรือมาตราอื่นที่เกี่ยวข้องดำเนินคดี ไม่ให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อน.