กรมการค้าภายในออกตรวจตลาดเยาวราชช่วงกินเจ พบส่วนใหญ่ราคาทรงตัว ขู่ห้ามเอาเปรียบผู้บริโภคเจอโทษหนัก
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน “อุดม ศรีสมทรง” ออกตรวจตลาดเยาวราชช่วงกินเจ พบสินค้าส่วนใหญ่ราคาทรงตัว ขู่ร้านค้าห้ามเอาเปรียบผู้บริโภคเจอโทษหนัก ไม่ติดป้ายบอกราคา / ขายเกินราคาที่กฎหมายกำหนด / กักตุนสินค้า / ปฏิเสธขาย ย้ำ! ทั้งโทษหนักทั้งจำและปรับ เผย! ชาวบ้านมั่นใจได้ เหตุส่งสายตรวจสุ่มลงพื้นที่ตรวจตลาดสำคัญทั่วกรุงอย่างต่อเนื่อง
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงการจัดส่ง เจ้าหน้าที่สายตรวจลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาและการซื้อขายสินค้าที่ใช้ในช่วงเทศกาลกินเจ ตามแหล่งจำหน่ายสำคัญ ณ ชุมชนเล่งป๊วยเอี๊ยะ (เยาวราช) และตลาดที่เป็นแหล่งจำหน่ายสำคัญๆ ของกรุงเทพฯ พบว่า ในปีนี้ภาพรวมราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลกินเจ ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เช่น หมี่กึ๋น (ไส้หมูเจ) ราคา 50 – 90 บาท/กก. ฟองเต้าหู้ (ไม่ทอด) ราคา 240 – 350 บาท/กก. ดอกไม้จีน (ไม่ฟอก) 320 – 420 บาท/กก. หัวผักกาด 35 – 50 บาท/กก. คะน้า ราคา 25 – 50 บาท/กก. เป็นต้น เช่นเดียวกับ อาหารปรุงสำเร็จเจ ซึ่งราคาไม่ต่างจากปีก่อน โดยราคาจะอยู่ที่ 50 – 60 บาท/ถุง
อย่างไรก็ตาม ขอให้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนที่ออกมาจับจ่ายใช้สอยเลือกซื้อสินค้าสบายใจ เพราะกรมฯได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจกรมการค้าภายใน ออกตรวจสอบผู้ประกอบการตามตลาดสดและย่านการค้าที่สำคัญในพื้นที่กรุงเทพฯ เพิ่มเติมจากที่ได้ปฏิบัติเป็นประจำอยู่แล้ว เช่น ตลาดพรานนก ตลาดมีนบุรี ตลาดยิ่งเจริญ ตลาดธนบุรี ตลาดเวิล์ดมาร์เก็ต เป็นต้น โดยติดตามพฤติกรรมทางการค้า สถานการณ์ราคา การไม่ติดป้ายแสดงราคา ตรวจสอบเครื่องชั่ง การค้ากำไรเกินควร และการกักตุนสินค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชนและป้องปรามมิให้มีการฉวยโอกาศขึ้นราคาสินค้าและเอาเปรียบผู้บริโภค
โดยเมื่อพบ การกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะในกรณีที่ ไม่ติดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณี จำหน่ายสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้า และปฏิเสธการจำหน่าย ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ หรือพบเห็นการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภค สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศได้ทันที.