“รมว.พาณิชย์” เข้าพบและร่วมหารือรองนายกรัฐมนตรีและรมต.การค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ เดินหน้ากระชับสัมพันธ์การค้าการลงทุน พร้อมโชว์ความพร้อมไทยเป็นครัวให้สิงคโปร์ กรุยทางเปิดตลาดไข่ไก่ออร์แกนิคผนึกกำลังเดินหน้าเศรษฐกิจดิจิทัล รองรับโลกการค้าสมัยใหม่ สานต่อ 60 ปีความสัมพันธ์ไทย-สิงคโปร์ในปี 2568

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 ณ สนเวียงจันทน์ สปป.ลาว, นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าในระหว่าง การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 56 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ ตนได้พบหารือทวิภาคีกับนายกาน คิม ยอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ เพื่อร่วมหาแนวทางการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-สิงคโปร์ สานต่อนโยบายจากรัฐบาลที่ผ่านมา

โดยได้ใช้โอกาสแสดงความพร้อมของไทยในการเป็นแหล่งวัตถุดิบด้านเกษตรและอาหารที่มีคุณภาพในฐานะ “ครัวของโลก” (Kitchen of the World) เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ของสิงคโปร์ พร้อมทั้งติดตาม การขึ้นทะเบียนฟาร์มไข่ไก่ออร์แกนิคของไทย เปิดให้ชาวสิงคโปร์มีทางเลือกในการบริโภคไข่พรีเมี่ยมจากไทย นอกเหนือจากไข่ไก่สดและไข่นกกระทาที่ส่งออกไปได้แล้ว โดยเฉพาะไข่ไก่สดที่สิงคโปร์เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย นอกจากนี้ ยังมีสินค้าเกษตรสำคัญที่สิงคโปร์นำเข้าจากไทย เช่น ไก่แปรรูป ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง เป็นต้น

“ไทยและสิงคโปร์เห็นร่วมกันจะเร่งสรุปการเจรจาความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียนหรือ DEFA โดยเร็ว ให้รองรับบริบทการค้าที่ทันสมัย ตลอดจนมีความปลอดภัยในการส่งผ่านข้อมูลทางการค้าข้ามแดน เพื่อส่งเสริมการค้าและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องในอาเซียน รวมทั้งการผลักดันการเจรจายกระดับคความตกลง ATIGA เพื่อดึงดูดการค้าลงทุนจากทั้งภายในและภายนอกมาสู่ภูมิภาคให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเชิญชวนไทยเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิดิจิทัลหรือ DEPA ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ ชิลี และ เกาหลีใต้ และความตกลง CPTPP โดยสิงคโปร์พร้อมที่จะสนับสนุนและให้ข้อมูลในรายละเอียดเพื่อประกอบการพิจารณาของไทยต่อไป” นายพิชัย กล่าว

นอกจากนี้ เมื่อเย็นวันที่ 17 กันยายน 67 รมว.พิชัย ยังได้มีการพบหารือนายคริส ฮัมฟรีย์ ผู้อำนวยการบริหารสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน (EU-ABC) ซึ่งได้นำสมาชิกสภาธุรกิจที่เป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ของยุโรปและประกอบธุรกิจในอาเซียนและไทย โดยไทยได้ยืนยันนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนการค้าและลงทุน ปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ เชิญชวนบริษัทชั้นนำของยุโรปขยายการลงทุนในไทย และร่วมผลักดันFTA ไทย-อียู อีกด้วย.

ทั้งนี้ ในปี 2568 ถือเป็นวาระพิเศษในการเฉลิมฉลองครบรอบ60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สิงคโปร์ กระทรวงพาณิชย์พร้อมที่จะสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการค้าการลงทุนของทั้งสองฝ่ายเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสดังกล่าว โดยจะมีกิจกรรมส่งเสริมการค้าทั้งในสิงคโปร์และเชิญคณะนักธุรกิจชาวสิงคโปร์เข้าร่วมงานแสดงสินค้าและกิจกรรมจับคู่ธุรกิจในไทยตลอดปี 2568 พร้อมทั้งจะมีการประชุมการค้าทวิภาคีไทย-สิงคโปร์ (STEER) ครั้งที่ 7 ที่สิงคโปร์มีกำหนดจะเป็นเจ้าภาพในปีหน้า เพื่อหารือแนวทางเพิ่มมูลค่าการค้า ขยายการลงทุนระหว่างกันต่อไป”