สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดกิจกรรมเปิดกล่องของขวัญเพื่อ SME ปี 2567 โดยรวบรวมหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ – เอกชน กว่า 50 องค์กรมาให้บริการด้านการเงิน นวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล งานวิจัย การตลาด ทั้งนี้ภายในงานมี SME กว่า 300 บริษัท เข้ารับบริการ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) ซึ่งเป็นประธานจัดงานในครั้งนี้ กล่าวว่า กิจกรรมเปิดกล่องของขวัญเพื่อ SME ของสถาบัน SMI สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดำเนินมาเป็นปีที่ 2 แล้ว ซึ่งจากผลสำรวจสมาชิกของ ส.อ.ท. และ SME ทั่วประเทศที่ผ่านมา พบว่ามีปัญหาการเข้าไม่ถึงบริการจากภาครัฐเนื่องจากแต่ละหน่วยงานตั้งอยู่คนละที่ และมีความยุ่งยากในการเดินทางไปรับบริการ หรือแม้กระทั่งการติดต่อทางออนไลน์แต่ละครั้ง อาจให้ข้อมูลได้ไม่ครบถ้วน และบางหน่วยงานไม่ได้มีบริการในพื้นที่ภูมิภาค ดังนั้นจึงได้มีการจัดกิจกรรม “เปิดกล่องของขวัญเพื่อ SME” นี้ขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาสัญจรไปแล้ว 20 จังหวัด ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และในปีนี้จะสัญจรไปอีก 20 จังหวัด โดยเน้นจังหวัดที่ยังขาดโอกาสในการรับบริการต่างๆ อาทิ จันทบุรี ตราด อำนาจเจริญ สกลนคร สุรินทร์ บุรีรัมย์ แพร่ น่าน พิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ เป็นต้น โดยตั้งเป้าว่าจะให้บริการ SME ถึง 1,000 บริษัท

“สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ต้องขอขอบคุณหน่วยงานพันธมิตรที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการที่จะพัฒนา SME ของประเทศไปด้วยกัน โดยเฉพาะการให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมไม่ว่าจะเป็น บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ธนาคารกสิกรไทย เคพีเอ็มจี ประเทศไทย (KPMG) ธนาคาร SME D Bank ธนาคารออมสิน ธนาคาร Exim Bank สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELs และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ทั้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม Central Labสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ผมเชื่อมั่นว่ากิจกรรมเปิดกล่องของขวัญเพื่อ SME จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ ไม่เพียงแค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ครอบคลุมต่างจังหวัดด้วย เพื่อพัฒนาธุรกิจของประเทศไทยให้เติบโตและเข้มแข็งกว่าเดิม” นายอภิชิต กล่าวเสริม

นอกจากนี้ ภายในงาน ผู้เข้าร่วมจะได้พบกับบริการและกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ บริการรับคำปรึกษาทางการเงิน การตลาดทั้งในและต่างประเทศ บริการให้คำปรึกษาการขึ้นทะเบียนสินค้า Made in Thailand (MiT) บริการเพื่ออุตสาหกรรมด้านเครื่องมือแพทย์ บริการเงินทุนสนับสนุนจากภาครัฐ กิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) ร่วมกับ 7-11 และเสวนาการพัฒนาผู้ประกอบการที่จะมาบอกเล่าถึงบริการเพื่อ SME ใน CEO talk for SME เป็นต้น.