เช็คด่วน! สวัสดิการแห่งรัฐ มี.ค.67 ใช้จ่ายอะไรบ้าง?
“โฆษกกรมบัญชีกลาง” แจงอัปเดตการใช้จ่ายของสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือนมีนาคม 2567 เช็คเลย! ผู้ถือบัตรฯใช้จ่ายอะไรได้บ้าง
นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะ โฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนมีนาคม 2567 จะได้รับสิทธิ ดังนี้
วันที่ 1 มีนาคม 2567 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
– วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 ม.ค. – 26 ก.พ. 2567 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 มี.ค. 2567 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง
– วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (มกราคม – มีนาคม 2567)
– วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน
ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า MRT (สายสีน้ำเงิน/สีม่วง) BTS (สายสีเขียว/สีทอง/สีเหลือง/สีชมพู) ARL (Airport Rail Link/สายสีแดง) และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ
วันที่ 11-13 มีนาคม 2567
– เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อัตรา 100 บาทต่อเดือน (มกราคม – มีนาคม 2567)
วันที่ 11 มีนาคม 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดก่อนวันที่ 1 มกราคม 2495
วันที่ 12 มีนาคม 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2495 – 31 ธันวาคม 2501
วันที่ 13 มีนาคม 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2501 – 29 กุมภาพันธ์ 2507
สำหรับผู้มีสิทธิที่ได้ทำการยืนยันตัวตน (e-KYC) แล้ว ภายในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 จะได้รับการโอนเงินผ่าน 2 ช่องทาง ดังนี้
(1) บัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น ตามหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นสำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/และหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้) หรือหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่นสำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/และหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้) หรือ
(2) กรณีไม่มีบัญชีตาม (1) จะโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิ (ต้องผูกพร้อมเพย์ภายในวันที่ 6 มีนาคม 2567)
วันที่ 20 มีนาคม 2567
– เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน
สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือนที่ยืนยันตัวตน 27 ม.ค. – 26 ก.พ. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)
“ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว.