“กกร.” นัด 10 ม.ค.นี้ ถกประเด็นร้อน “อัตราดอกเบี้ย” จี้ สมาคมธนาคารไทย แจงเหตุผล
“เกรียงไกร เธียรนุกูล” ประธานสภาอุตสาหกรรมฯ นัด คณะกรรมการ กกร.10 ม.ค.นี้ ถกประเด็นร้อน กรณี ธนาคารพาณิชย์ ขึ้นอัตราดอกเบี้ย สวนทางเงินเฟ้อ หวังสมาคมธนาคารไทยชี้แจงเหตุผล
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากกรณี ธนาคารพาณิชย์มีกำไรสูงกว่า 2.2 แสนล้านบาท มีการตั้งคำถามว่า เป็นผลจากส่วนต่างรายได้จากอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยสูงเกินไปหรือไม่ ต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาดูแลและไม่ต้องการให้ธปท.ขึ้นดอกเบี้ยอีกนั้น ในการประชุมคณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วยส.อ.ท. หอการค้าไทย และ สมาคมธนาคารไทย หรือกกร. ในวันที่ 10 ม.ค. นี้ จะมีการหารือประเด็นอัตราดอกเบี้ยที่กำลังเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เชื่อว่า ทางสมาคมธนาคารไทยจะมีการชี้แจงในเรื่องดังกล่าว
โดยประเด็นเรื่องอัตราดอกเบี้ยต้องการให้มอง 2 มุมมากว่า โดยในมุมของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือคณะกรรมการนโยบายการเงินที่มีหน้าที่กำกับดูแลอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2.5% ก็คงจะมีเหตุผลในการปรับขึ้น เนื่องจากขณะนั้นรัฐบาลสหรัฐมีการใช้มาตรการ QE หรือการพิมพ์ธนบัตรออกมา เพื่ออัดฉีดเข้าสู่ระบบ รวมถึงมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายแนวทาง จนทำให้ประชาชนชาวสหรัฐแม้ไม่ได้ทำงาน แต่ยังมีเงินอย่างเหลือเฟือ ทำให้มีการใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก เงินเฟ้อของสหรัฐสูง และต้องสู้กับเงินเฟ้อของไทยด้วย
ส่วนประเด็นที่มีการระบุถึงกำไรของสถาบันการเงินที่สูงกว่า 2.2 แสนล้านบาท เป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งเป็นรายได้ค่อนข้างสูง แต่อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เป็นต้นทุน ค่อนข้างต่ำ จึงส่งผลทำให้มองว่า มีกำไรมาก ถ้ามองในมุมเอกชน หรือผู้ประกอบการต้องการให้ต้นทุนทางการเงินลดลงอยู่แล้ว โดยหวังว่าปี 67 ไทยจะมีแนวโน้มดอกเบี้ยในทิศทางขาลง เพราะสหรัฐฯ เองก็ระบุชัดเจนว่า หมดยุคของดอกเบี้ยขาขึ้น และจะมีการลดลง 3 ครั้งปีนี้ แต่ไม่ได้ระบุเวลา เพราะเงินเฟ้อสหรัฐฯอยู่ที่ 3% กว่า ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการคือ 2% แต่ก็จะมีการชะลอลดดอกเบี้ยลง