ปลัดคลังไม่หวั่นตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า เหตุทำแผนรับมือไว้แล้ว เผย! ช่วงไร้งบปี 67 เตรียมเร่งรัฐวิสาหกิจและแบงก์เฉพาะกิจของรัฐลุยลงทุน 1.2 แสนล้านในช่วงต้นปีงบประมาณใหม่ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงปัญหาความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ว่า กระทรวงการคลังได้ประมาณการช่วงเวลาที่ล่าช้ามากสุด 6 เดือน ซึ่งความล่าช้านี้จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและเร่งรัดการลงทุนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่คาดว่าจะสามารถเร่งรัดการลงทุนได้ราว 50,000 ล้านบาทจากทั้งหมดกว่า 5 แสนล้านบาทและการลงทุนจากธนาคารเฉพาะกิจของรัฐรวมกันอีกอีกราว 70,000 ล้านบาท รวมเป็น 1.2 แสนล้านบาท โดยจะเน้นการลงทุนในช่วงต้นปีงบประมาณ 2567 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ยังไม่มีงบประมาณแผ่นดิน

สำหรับการจัดงบประมาณปี 2567 ได้หารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒน์ และสำนักงบประมาณ โดยจะทำควบคู่ไปกับงบประมาณปี 2568 ซึ่งข้อดีคือจะทำให้มองเห็นภาพรวมและการเชื่อมต่อของบประมาณทั้ง 2 ปี

“กระทรวงการคลังไม่ห่วงเรื่องความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ที่ผ่านมาเคยเจอปัญหามาแล้วในทุกมิติ โดยเฉพาะในปี 2557 (ที่มีการทำรัฐประหาร) และเราก็สามารถรับมือกับสถานการณ์เหล่านั้นได้ แผนงานที่เราจัดทำไว้มีความสมบูรณ์ในระดับที่ฝ่ายการเมืองสามารถนำไปใช้ได้ทันที และเราก็เสนอให้ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาได้พิจารณาถึงแผนงานในขณะนั้นได้พิจารณาทุกครั้ง”

ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวอีกว่า ในส่วนของรายจ่ายประจำนั้น กระทรวงการคลังได้หารือกับสำนักงบประมาณถึงการจัดทำเกณฑ์รายจ่าย โดยจะใช้จากงบประมาณปี 2566 ไปก่อน คาดว่าสำนักงบประมาณจะจัดทำเกณฑ์รายจ่ายดังกล่าวแล้วเสร็วในเร็วๆ นี้ เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ได้มีกรอบการพิจารณาในการเบิกจ่ายในช่วงที่ยังไม่มีงบประมาณปี 2567 โดยเฉพาะงบประมาณเพื่อการเวรคืนที่ดิน เพื่อให้การลงทุนในโครงการต่างๆ ของรัฐวิสาหกิจดำเนินการได้อย่างเร่งด่วนต่อไป.