‘DIP’ ขับเคลื่อน ‘เกษตรกรรมไทย 4.0’ ดันเทคโนโลยี–IP เสริมแกร่งภาคเกษตรสู่เวทีโลก

กรมทรัพย์สินทางปัญญา จับมือ  WIPO และหน่วยงานพันธมิตรในอาเซียน เปิดโครงการ “Agriculture 4.0 in ASEAN” หนุนใช้เทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาต่อยอดธุรกิจ เพิ่มมูลค่าสินค้า-ขยายตลาดสากล พร้อมผลักดันต้นแบบนวัตกรรม Agri-Tech ของ SMEs ไทยสู่ IP Fair 2026 เสริมพลังการแข่งขันอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล

​​นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา(DIP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการ Agriculture 4.0 in ASEAN เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของ WIPO ที่มุ่งเปิดมุมมองใหม่ให้กับภาคธุรกิจในการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ การบริหารจัดการสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเป็นระบบ การต่อยอดเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกษตร และสร้างโอกาสขยายตลาดสู่ต่างประเทศ เนื่องจากเล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมเกษตรเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน สำหรับในประเทศไทยมีการจ้างงานในภาคเกษตรมากถึงร้อยละ 31 ของแรงงานไทยทั้งหมด แต่ปัจจุบันเกษตรกรต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ต้นทุนการผลิต ความผันผวนของราคาสินค้า ฯลฯ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีด้านการเกษตร เพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างความมั่นคงทางอาหารให้ตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญของ WIPO เป็นผู้ให้คำปรึกษาเชิงลึกกับผู้ประกอบการแบบตัวต่อตัว

นางอรมน กล่าวว่า โครงการ Agriculture 4.0 in ASEAN เริ่มดำเนินการตั้งแต่กลางเดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมา และมีกิจกรรมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนธันวาคม 2568 โดย WIPO ได้คัดเลือกผู้ประกอบการ SMEs และธุรกิจสตาร์ทอัพด้าน Agri-Tech ของไทย 4 ราย เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่มีความโดดเด่นด้านการใช้ความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีในการสร้างนวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจ อีกทั้งยังเป็นต้นแบบในการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาและปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) มาช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรของไทยในมิติต่างๆ

ประกอบด้วย (1) บจก. เอส ซี เฮลท์เทค จำกัด ในด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ (2) บจก. ไร่ทอง ออร์แกนิกส์ ฟาร์ม จำกัด ในด้านเกษตรอินทรีย์ (3) บจก. ไทยแฮนด์ เอ.ไอ. จำกัด ในด้านหุ่นยนต์สำหรับการใส่ปุ๋ยเพาะปลูก และ (4) บจก. เนรมิต ฟู้ดเทค จำกัด ในด้านเทคโนโลยีอาหารข้าวไร้แป้ง ซึ่งผู้ประกอบการทั้ง 4 ราย จะได้รับคำปรึกษาเพื่อพัฒนานวัตกรรมต้นแบบและต่อยอดเทคโนโลยีสู่เชิงพาณิชย์ รวมถึงการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาในการเพิ่มมูลค่า (Value Added) ให้กับสินค้าและบริการ ผ่านกลไกการอนุญาตให้ใช้สิทธิ (IP Licensing) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนและขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ซึ่งหลังจากจบโครงการนี้ กรมมีแผนจะนำนวัตกรรมต้นแบบด้าน Agri-tech ของผู้ประกอบการ มาร่วมจัดแสดงในงานมหกรรมทรัพย์สินทางปัญญา ประจำปี 2569 (IP Fair 2026) เพื่อสร้างมูลค่าการซื้อขายสินค้าและเปิดโอกาสในการจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) ภายในงาน พร้อมต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในกิจกรรมอื่นๆ ของกรมต่อไป

ความร่วมมือระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญาและ WIPO ในครั้งนี้ นับเป็นการเชื่อมโยงนวัตกรรมจากภาควิจัยมาต่อยอดทางธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนภาคเกษตรของไทยในยุคเทคโนโลยีและดิจิทัล โดยสอดคล้องกับแนวนโยบาย IP 4 All” หรือ “ทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อทุกคน” โดยเฉพาะ IP for Business” และ“IP for Innovation” ที่กรมมุ่งเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยให้สามารถใช้เทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาเป็นกลไกสร้างมูลค่าเพิ่มและยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันในเวทีการค้าโลก

ทั้งนี้ กรมเชื่อมั่นว่าแนวทาง “เกษตรกรรมไทย 4.0” จะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยพลิกโฉมภาคการเกษตรไทยจากการผลิตเชิงปริมาณไปสู่การสร้างมูลค่าด้วยนวัตกรรม องค์ความรู้ เทคโนโลยี และทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจะช่วยยกระดับสินค้าและบริการด้านการเกษตรของไทยให้มีศักยภาพและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างแท้จริง อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวทิ้งท้าย.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password