พาณิชย์ย้ำเดินหน้าเจรจาการค้าสหรัฐฯ แม้ศึกชายแดนไทย–กัมพูชา ชี้ไม่กระทบความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ

‘ศุภจี สุธรรมพันธุ์’ รมว.พาณิชย์ ยันความขัดแย้งไทย–กัมพูชา “ไม่กระทบ” ท่าทีสหรัฐฯ ต่อการเจรจาการค้า ระบุวอชิงตันแยกการเมืองออกจากเศรษฐกิจและยังมุ่งผลักดันให้ข้อเจรจาคืบหน้าภายในปีนี้ พร้อมเผยนักธุรกิจสหรัฐฯ ใต้ USABC ยังมองไทยเป็นฟันเฟืองสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก ขณะที่รัฐบาลไทยเดินหน้ากลยุทธ์ขยายตลาดใหม่ ลดการพึ่งพาตลาดเดียว และรักษาผลประโยชน์ภาคส่งออกอย่างต่อเนื่อง

นางศุภจี ระบุว่า ประเด็นแรกที่ต้องทำความเข้าใจคือ กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงร่วม (Joint Declaration) ก่อน และเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีความสูญเสียต่อฝ่ายไทย ซึ่งรัฐบาลไทยไม่สามารถยอมรับได้ และเชื่อว่ารัฐบาลของทุกประเทศย่อมไม่สามารถยอมรับการกระทำในลักษณะนี้ได้เช่นเดียวกัน
ฝ่ายสหรัฐฯ จึงควรเข้าใจข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ และไม่ควรนำสถานการณ์ดังกล่าวมาเป็นเหตุผลในการชะลอหรือหยุดการเจรจาการค้ากับไทย ซึ่งจากการพบปะหารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ในการประชุมเอเปคที่ผ่านมา ได้รับการยืนยันอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯ แยกประเด็นทางการเมืองออกจากการค้า และยังคงมีเจตนารมณ์ที่จะผลักดันให้การเจรจาสำเร็จภายในปลายปีนี้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สอดคล้องกับท่าทีของไทย และความต้องการของภาคเอกชนทั้งสองประเทศที่ต้องการเห็นความชัดเจนในการค้าและการลงทุน

เมื่อวันที่11 พ.ย.68 นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ) ให้การต้อนรับ Mr. Ted Osius ตำแหน่ง Senior Vice President and Regional Managing Director และคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (US-ASEAN Business Council: USABC) ในโอกาสเยือนประเทศไทย ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับคณะนักธุรกิจสหรัฐฯ ภายใต้ USABC โดยทุกฝ่ายมีมุมมองตรงกันว่า ไทยเป็นประเทศสำคัญในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก และเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง นักธุรกิจสหรัฐฯ ชื่นชมบทบาทเชิงรุกของไทยในการขยายตลาดการค้า ผ่านการเจรจาเปิดตลาดและข้อตกลงการค้าเสรี (FTA)

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงประเด็น นโยบายภาษีของสหรัฐฯ (US Tariff) ซึ่งภาคเอกชนสหรัฐฯ มองว่าเป็นประเด็นที่มีทั้ง “โอกาสและความท้าทาย” ต่อบริษัทอเมริกันเอง โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีฐานการผลิตหรือห่วงโซ่อุปทานในประเทศไทย ไทยยังคงเป็นฐานการผลิตสำคัญและเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ
นางศุภจี ระบุเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าหลักของไทย และรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการรักษาสมดุลและความสัมพันธ์อันดีกับประเทศคู่ค้าที่เป็นมิตร พร้อมเดินหน้าสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
“กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายเร่งขยายตลาดใหม่เพื่อลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง โดยใช้กลยุทธ์เชิงรุก ทั้งการเจรจาเปิดตลาด การจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ และการส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยใช้ประโยชน์จากผลการเจรจาและกิจกรรมส่งเสริมการค้า” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว
ทั้งนี้รัฐบาลไทยและกระทรวงพาณิชย์จะยังคงเดินหน้าการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เพื่อรักษาและปกป้องผลประโยชน์ของภาคการส่งออกของไทย ควบคู่กับการแสวงหาตลาดใหม่ และส่งเสริมสินค้าไทยในประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน.







