‘DITP’ เผยเทรนด์ฮีสแปนิกสหรัฐฯ อาหารสุขภาพมาแรง! ดันโอกาสส่งออกไทยเจาะตลาด 68 ล้านคน

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวฮีสแปนิกในสหรัฐฯ หันบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้น ทั้งวีแกน มังสวิรัติ และสินค้าไม่ใช้ GMO สะท้อนโอกาสทองผู้ส่งออกไทยที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมอาหารสุขภาพ พร้อมชี้ผู้ผลิตไทยต้องปรับสินค้า–สื่อสาร–รสชาติ ให้ตอบโจทย์วัฒนธรรมผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อเทรนด์อาหารในสหรัฐฯ

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสุปรารถนา กมลเวชช ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก สหรัฐฯ ถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของชาวฮีสแปนิก ที่ส่งผลกระทบต่อวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และโอกาสในการส่งออกอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และมีนวัตกรรม เพื่อเจาะตลาด

โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า ปัจจุบันตลาดผู้บริโภคชาวฮีสแปนิกในสหรัฐฯ กำลังกลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่มีบทบาทสำคัญต่อวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในสหรัฐฯ โดยล่าสุด สถาบันอาหารของสหรัฐฯ (The Food Institute) ระบุว่า ผู้บริโภคชาวฮีสแปนิกในสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค โดยหันมาให้ความสำคัญต่อการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อาหารปลอดกลูเตน มีไขมันต่ำ Non-GMO ไม่ใช้ GMO ที่ดัดแปลงพันธุกรรมมาใช้ในการผลิต แต่เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ จากพืช และมีรสชาติแท้ ซึ่งแนวโน้มนี้มีความชัดเจนมากขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มประชากรเชื้อสายอื่นๆ ในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานของ Numerator ระบุว่า เมื่อเทียบกับประชากรสหรัฐฯ โดยรวม ผู้บริโภคชาวฮีสแปนิก มีแนวโน้มเป็นวีแกนมากกว่าถึงร้อยละ 75 และมากกว่าร้อยละ 42 มีแนวโน้มเป็นมังสวิรัติ และมากกว่าร้อยละ 22 มีแนวโน้มหลี่กเลี่ยงอาหารที่มีกลูเตน ซึ่งแนวโน้มนี้กลายเป็นโอกาสสำคัญของอุตสาหกรรมอาหารจากพืช (plant-based) ซึ่งกำลังเผชิญกับภาวะยอดขายชะลอตัวในช่วงหลัง

ขณะเดียวกัน พบว่า แบรนด์ดังระดับโลก มีการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยบริษัท PepsiCo และ Vilore Foods ต่างเร่งปรับตัว เตรียมรุกตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวฮีสแปนิกยุคใหม่ เมื่อต้นปี บริษัท PepsiCo ได้เข้าซื้อกิจการบริษัท Siete Family Foods ด้วยมูลค่า 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นแบรนด์อาหารเพื่อสุขภาพที่มีจุดขายด้านรสชาติท้องถิ่นผสมผสานกับคุณค่าทางโภชนาการเพื่อจับตลาดกลุ่มผู้บริโภค ชาวฮีสแปนิก โดยเฉพาะเพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์แนวสุขภาพและอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมต่างชาติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนในระยะยาวในตลาดที่มีศักยภาพสูง ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของ Siete เช่น แป้งตอร์ตียาและขนมชิพที่ไม่มีกลูเตนและไม่ใช้ GMO ยังคงรักษารสชาติแบบดั้งเดิมและกระบวนการผลิตที่แท้จริง และบริษัท Vilore Foods ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัท Tia Lupita Foods เมื่อเดือน ก.ค.2568 ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในการนำเสนอรสชาติแบบเม็กซิกันแท้ และการผสมผสาน วัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ ชี้ให้เห็นว่า นวัตกรรมอาหารในอนาคตจะเน้นทั้ง ความเป็นต้นตำรับ และคุณค่าด้านสุขภาพ
“ปัจจุบัน ประชากรชาวฮีสแปนิกในสหรัฐฯ มีจำนวน 68 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมดในสหรัฐฯ และยังมีพฤติกรรมการบริโภคที่เฉพาะตัว ส่งผลต่อเทรนด์สินค้าและการตลาดโดยตรง การเข้าใจและตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวฮีสแปนิก ไม่เพียงเป็นโอกาสทางการตลาด แต่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการเติบโตระยะยาวของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทย ที่ต้องการขายสินค้าอาหารและเครื่องดื่มเจาะตลาดชาวฮีสแปนิก ต้องปรับผลิตภัณฑ์ การสื่อสาร และรสชาติ ให้สอดคล้องกับความต้องการด้านสุขภาพ และวัฒนธรรมของกลุ่มผู้บริโภคชาวฮีสแปนิก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลในการขับเคลื่อนเทรนด์การบริโภคในสหรัฐฯ โดยไทยมีความโดดเด่นด้านสุขภาพ นวัตกรรม มีอาหารหลากหลายเฉพาะกลุ่ม ทั้งมังสวิรัติ วีแกน ปลอดกลูเตน และสินค้า plant-based สามารถที่จะขยายตลาดได้” นางสาวสุนันทากล่าว
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายด่วน 1169.






