“อธิบดีฯอรมน” นำทีมไทยเข้าร่วมหารือกับสมาชิกอาเซียนในเวที AWGIPC ครั้งที่ 77 ที่ปีนัง มาเลเซีย เดินหน้าจัดทำแผนด้านทรัพย์สินทางปัญญา 5 ปี ตั้งเป้ายกระดับระบบนิเวศทรัพย์สินทางปัญญาสู่เวทีโลก เผย! นับเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของความร่วมมือทรัพย์สินทางปัญญาในภูมิภาค

เมื่อวันที่ 3 – 6 พฤศจิกายน 2568 นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ พร้อม คณะผู้แทนไทย ได้เข้าร่วมการประชุมASEAN Working Group on Intellectual Property Cooperation (AWGIPC) ครั้งที่ 77 ณ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซียเพื่อเจรจาปรับกรอบความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาในภูมิภาคอาเซียน โดยมีเป้าหมายชัดเจน คือ การผลักดันให้ระบบทรัพย์สินทางปัญญาในภูมิภาคเอื้อต่อการสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม พร้อมส่งเสริมการค้าการลงทุนข้ามแดนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นในเวทีโลก

โดยการเลือกปักหมุดจัดงานที่ปีนัง ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น ศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในภูมิภาค แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของอาเซียนที่จะใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็น “รากแก้ว” ของการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง และให้ SMEs รวมถึงบริษัทข้ามชาติมีบทบาทในห่วงโซ่การผลิตเทคโนโลยีได้มากขึ้น โดยที่ประชุมทั้งหมดยินยอมร่วมกันว่าจะพัฒนากระบวนการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้มีประสิทธิภาพ สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยีและเศรษฐกิจสมัยใหม่

นางอรมน กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้นับเป็น “หมุดหมายสำคัญ” เนื่องจากประเทศสมาชิกอาเซียนสามารถดำเนินกิจกรรม ภายใต้ ASEAN IPR Action Plan 2016‑2025 ได้บรรลุผลหลายด้าน  เช่น การพัฒนาศักยภาพผู้ตรวจสอบสิทธิบัตร การแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติและประสบการณ์ด้านการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และการจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้ด้าน IP เป็นต้น อีกทั้งยังมี การต้อนรับ ติมอร์เลสเต ในฐานะสมาชิกอาเซียนลำดับที่ 11 ที่เข้าร่วมเวที AWGIPC เป็นครั้งแรก ซึ่งสร้างโอกาสต่อการขยายการทำงานร่วมในภูมิภาค

สำหรับอนาคต อาเซียนตกลงจัดทำ ASEAN IPR Action Plan 2026‑2030 (พ.ศ. 2569 – 2573) โดยไทยเน้นย้ำถึงความจำเป็นของความร่วมมือภายในภูมิภาคเพื่อยกระดับการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา การสร้างความตระหนักรู้เรื่องสิทธิ IP การใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเชิงพาณิชย์ เช่น การแปลง IP ให้เป็นทุน และการส่งเสริมสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนแก่ SMEs และชุมชน

ในส่วนหนึ่งของการประชุม ไทยได้ร่วมหารือกับหน่วยงานระหว่างประเทศ เช่น World Intellectual Property Organization (WIPO) European Union Intellectual Property Office (EUIPO) United Kingdom Intellectual Property Office (UKIPO) และ Intellectual Property Office of Singapore (IPOS) ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา โดยใช้นวัตกรรมอย่าง AI มาเพิ่มประสิทธิภาพบริการ เช่น การสืบค้นข้อมูล IP การตรวจสอบคำขอจดสิทธิบัตร/เครื่องหมายการค้า และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ซึ่งจะช่วยให้หน่วยงานไทยมีความทันสมัยและตอบโจทย์ผู้ใช้บริการประชาชนต่อไป

โดยรวมแล้ว การประชุม AWGIPC ครั้งนี้เป็นการยืนยันว่าอาเซียนมองทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจและการแข่งขันในเวทีโลกอย่างจริงจัง ไทยจึงมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้กลไก IP ในภูมิภาคไม่ใช่เพียงเครื่องมือทางกฎหมาย แต่เป็นรากฐานของนวัตกรรมและโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่พร้อมจะเติบโตและแข่งขันได้.