แรงขับเม็ดเงินรัฐหนุน! ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง ต.ค.68 ขยับต่อเนื่องเดือนที่ 17

 
ผอ.สนค.”เผย! โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ ดันราคาวัสดุก่อสร้างขยับ แม้ตลาดอสังหาฯ ซบฉุดบางหมวดร่วง ชี้! แนวโน้มเดือน พ.ย. ยังมีแรงหนุนจากงบรัฐ ซ่อมแซมหลังภัยพิบัติ และต้นทุนคาร์บอนยูโรโซน

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนตุลาคม 2568 เท่ากับ 113.4 เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2567 (YoY) สูงขึ้นร้อยละ 0.3 ขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 โดยมี ปัจจัยสนับสนุนจากการเร่งดำเนินการโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ขณะที่ ปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างกดดันให้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างบางหมวดลดลง มีรายละเอียด ดังนี้

หมวดที่ดัชนีราคาสูงขึ้น ได้แก่ หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ สูงขึ้นร้อยละ 1.0 จากการสูงขึ้นของ ไม้แบบ วงกบหน้าต่าง และบานหน้าต่าง จากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น (การดำเนินการ วัตถุดิบ) หมวดซีเมนต์ สูงขึ้นร้อยละ 6.7 จากการสูงขึ้นของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ปูนซีเมนต์ผสม และปูนฉาบสำเร็จรูป เนื่องจากจากความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้างภาครัฐขยายตัว หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้นร้อยละ 0.9 จากการสูงขึ้นของเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง คานคอนกรีตสำเร็จรูป คอนกรีตผสมเสร็จ และถังซีเมนต์สำเร็จรูป ตามการสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบ (ปูนซีเมนต์ ทราย) และ หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา สูงขึ้นร้อยละ 1.5 จากการสูงขึ้นของสายส่งกำลังไฟฟ้า NYY สายไฟฟ้า VCT และสายไฟฟ้า VAF ตามการสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบ (ทองแดง) รวมทั้ง มีความต้องการใช้ในการก่อสร้างด้านสาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและดิจิทัลเพิ่มขึ้น

ขณะที่ หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลดลงร้อยละ 1.3 จากการลดลงของเหล็กเส้นกลมผิวข้ออ้อย เหล็กตัวซี เหล็กตัว H และท่อเหล็กดำ เป็นผลจากการบังคับใช้มาตรการทางภาษีเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในหลายประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการจากต่างประเทศ หาตลาดใหม่ทดแทนส่งผลให้มีการระบายเหล็กสู่อาเซียนรวมทั้งประเทศไทย หมวดกระเบื้อง ลดลงร้อยละ 1.4 จากการลดลงของกระเบื้องยาง PVC ปูพื้น กระเบื้องเคลือบบุผนัง และกระเบื้องเคลือบปูพื้น จากปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ฟื้นตัวทำให้ผู้ประกอบการชะลอการลงทุนโครงการก่อสร้างใหม่เนื่องจากยังมีอุปทานของอสังหาริมทรัพย์ที่ค้างอยู่สูง หมวดสุขภัณฑ์ ลดลงร้อยละ 4.4 จากการลดลงของโถส้วมชักโครก อ่างล้างหน้าเซรามิก ฝักบัวอาบน้ำ และราวจับสแตนเลส ผู้ประกอบการชะลอการลงทุนโครงการก่อสร้างใหม่เนื่องจากยังมีอุปทานของอสังหาริมทรัพย์ที่ยังค้างอยู่สูง หมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ลดลงร้อยละ 2.3 จากการลดลงของยางมะตอย ตามการลดลงของราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่มีสาเหตุจากการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ (OPEC+) สำหรับหมวดวัสดุฉาบผิว ดัชนีราคาไม่เปลี่ยนแปลง

นายนันทพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนพฤศจิกายน ปี 2568 มีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยจาก (1) การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐเพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปตามแผนที่กำหนด (2) ความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างในการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและด้านคมนาคมที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ (3) การปรับกระบวนการผลิตสินค้าวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็ก เป็นต้น เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิตตามมาตรการภาษีคาร์บอนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป (EU) ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password