‘คต.’ ลุยจัดกิจกรรมโปรโมทข้าวไทย กระตุ้นยอดส่งออก ‘จีน – ซาอุฯ – UAE – ฮ่องกง’

กรมการค้าต่างประเทศ ขานรับนโยบาย รมว.พาณิชย์ “รักษาตลาดเดิม – ขยายตลาดใหม่” วางโปรแกรมเดินสายโปรโมทช่วง พ.ย.2568 เริ่มที่ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ต่อด้วยเมืองเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย และงาน Thai Select Festival 2025 เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมจัดกิจกรรมรับรองผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงในไทย มุ่งประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทย ชูแคมเปญ “Think Rice Think Thailand”

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จาก นโยบายของ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ในการเพิ่มมูลค่าการส่งออก โดยการ รักษาตลาดข้าวเดิม เช่น จีน ฮ่องกง และญี่ปุ่น และบุกตลาดใหม่ โดยให้ เร่งขยายตลาดข้าวไปยังตลาดที่มีความต้องการและมีศักยภาพโดยเฉพาะภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่น อิรัก ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น ซึ่งสอดรับกับแผนการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในเดือนพฤศจิกายน 2568 ของกรมฯ ดังนี้
1.การเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ China International Import Expo (CIIE) 2025 ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 1 – 11 พฤศจิกายน 2568 ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดย งาน CIIE เป็นงานแสดงสินค้านำเข้าที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ จัดขึ้นโดยกระทรวงพาณิชย์จีน เพื่อส่งเสริมการนำเข้าและเป็นเวทีเจรจาธุรกิจระหว่างจีนและประเทศต่างๆ สำหรับ กรมฯ เข้าร่วมงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ด้วยจีนเป็นตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญของไทย

โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า จีนเป็นตลาดนำเข้าข้าวรายใหญ่ของโลก แต่ละปีนำเข้าประมาณ 1 – 6 ล้านตัน ขณะที่ไทยส่งออกข้าวไปจีนประมาณ 440,000 – 750,000 ตัน/ปี ครองส่วนแบ่งการนำเข้าข้าวของจีนร้อยละ 23 รองจากเมียนมา และเวียดนาม สำหรับชนิดข้าวไทยที่ส่งไปจีนส่วนใหญ่เป็นข้าวขาว ข้าวหอมมะลิไทย และข้าวเหนียว
2.การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Foodex Saudi 2025 ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 2 – 7 พฤศจิกายน 2568 ณ เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยงานดังกล่าวเป็น งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับนานาชาติที่สำคัญที่สุดงานหนึ่งของซาอุดีอาระเบีย จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นเวทีเจรจาธุรกิจและสร้างเครือข่ายทางการค้า และขยายโอกาสสู่ตลาดซาอุดีอาระเบียและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
สำหรับ กรมฯ เข้าร่วมงานนี้เป็นครั้งแรก โดยเห็นว่า ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่บริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก แต่ด้วยภูมิประเทศไม่เหมาะสมต่อการเพาะปลูก จึงต้องนำเข้าข้าวจากต่างประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการข้าวในประเทศ ซึ่งแต่ละปีอยู่ที่ 1.7 ล้านตัน ขณะที่นำเข้าประมาณ 1.8 ล้านตัน/ปี แต่ละปีไทยส่งออกข้าวไปซาอุดีอาระเบียประมาณ 14,000 – 30,000 ตัน ครองส่วนแบ่งปริมาณการนำเข้าข้าวของซาอุดีอาระเบียร้อยละ 12 รองจากอินเดีย สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และเวียดนาม สำหรับชนิดข้าวไทยที่ส่งออกไปซาอุดีอาระเบียส่วนใหญ่เป็น ข้าวหอมมะลิไทย รองลงมา ได้แก่ ข้าวนึ่ง และข้าวหอมไทย

3.การจัดกิจกรรมรับรองคณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงเดินทางเยือนประเทศไทย ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 17 – 20 พฤศจิกายน 2568 ณ กรุงเทพมหานคร, จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดพัทลุง ซึ่งที่ผ่านมา กรมฯ ได้นำคณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงไปเยี่ยมชมและศึกษาดูงานด้านการผลิตและการแปรรูปข้าวไทยในพื้นที่เพาะปลูกข้าวในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย มาโดยตลอด
สำหรับปีนี้ คณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงสนใจจะเยี่ยมชมและศึกษาดูงานด้านการผลิตและการแปรรูปข้าวทางภาคใต้ของไทย กรมฯ จึงมีแผนจะนำคณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง ไปศึกษาดูงานโรงสีข้าวในจังหวัดนครศรีธรรมราช รับฟังบรรยายเกี่ยวกับพันธุ์ข้าวของไทย ณ ศูนย์วิจัยข้าวพัทลุง และเข้าพบหารือสถานการณ์การค้าข้าวกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง และสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกข้าวที่สำคัญของโลก
ทั้งนี้ คณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงที่มาเยือนประเทศไทยเคยได้รับรางวัล Best Import Performance of Thai Rice Award จากกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะที่เป็น พันธมิตรทางการค้าข้าวที่ดีของไทย และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ข้าวไทยยังคงครองส่วนแบ่งตลาดข้าวเป็นอันดับ 1 ในฮ่องกงมาอย่างยาวนาน โดยปัจจุบัน ไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของตลาดฮ่องกง ครองส่วนแบ่งตลาดนำเข้าข้าวของฮ่องกงประมาณร้อยละ 60 ของปริมาณการนำเข้าข้าวของฮ่องกงที่นำเข้าปีละประมาณ 275,000 – 307,000 ตัน สำหรับชนิดข้าวไทยที่ส่งไปฮ่องกงประมาณร้อยละ 80 เป็นข้าวหอมมะลิไทย
และ 4.งาน Thai SELECT Festival 2025 ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 28 – 30 พฤศจิกายน 2568 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จัดโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองดูไบ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าและบริการที่มีศักยภาพของไทย ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และร้านอาหาร Thai SELECT หรือ แนวคิด 5F ได้แก่ Food (อาหารและเครื่องดื่ม) Fight (ศิลปะมวยไทย) Festival (ศิลปวัฒนธรรมไทย) Film (ภาพยนตร์ไทยที่เน้นวัฒนธรรมไทยและวัตถุดิบอาหารไทย) และ Fashion (แฟชั่นโชว์ชุดผ้าไทย) โดยที่ผ่านมามี รมช.พาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน สำหรับ กรมฯ การเข้าร่วมงานปีนี้เป็นครั้งแรก โดยเห็นว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นศูนย์กลางการค้าและโลจิสติกส์ของภูมิภาคตะวันออกกลาง มีเมืองดูไบเป็นท่าขนถ่ายสินค้าหลัก และเป็น Re-exporter รายใหญ่ของโลกที่ส่งสินค้าต่อไปยังประเทศต่างๆ ทั้งในตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และแอฟริกา
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า จีนและฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกข้าวของไทยมาอย่างยาวนาน สำหรับ ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับสินค้าข้าวไทย ดังนั้น การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวข้างต้นจึงเชื่อมั่นว่า จะช่วยส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีของข้าวไทย ทั้งในด้าน รสชาติ คุณภาพ มาตรฐาน และความหลากหลาย ให้ผู้บริโภคข้าวในจีน ฮ่องกง ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ระลึกถึงข้าวไทยเมื่อนึกถึงข้าว หรือ “Think Rice Think Thailand” ซึ่งจะช่วยรักษาและขยายส่วนแบ่งตลาดข้าวและกระตุ้นการส่งออกข้าวไทยไปยัง 4 ตลาดให้เพิ่มขึ้น และส่งผลให้การส่งออกข้าวไทยในปี 2568 เป็นไปตามเป้าหมาย 7.5 ล้านตัน และสามารถติดตลาดอย่างต่อเนื่องในระยะยาวตามนโยบายของรัฐบาล.






