‘พาณิชย์’ จับมือ TGO หนุน ผปก.ไทย เร่งปรับตัวสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ เสริมแกร่งองค์ความรู้คาร์บอนเครดิต สร้างแต้มต่อเวทีการค้าโลก

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า MOU ร่วมองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก เดินหน้าขับเคลื่อนภาคธุรกิจไทยสู่เป้าหมาย Net Zero เป็นรูปธรรม ยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทย เน้นกลุ่ม SME เร่งปรับตัว ก้าวสู่ระบบเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำได้อย่างทันต่อสถานการณ์ หวังแข่งขันเวทีการค้าโลก

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้ด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน ณ ศูนย์ประชุมทรูไอคอน ฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม ว่า เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 กระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัดพิธีลงนาม MOU ร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (TGO) เพื่อยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนให้มีความรู้ความเข้าใจ และสามารถปรับตัวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำได้อย่างเป็นรูปธรรม

รมว.พณ. กล่าวต่อว่า กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการเร่งพัฒนาธุรกิจให้แข่งขันได้ เมื่อการค้ายุคใหม่ได้กำหนดให้ ‘มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม’ กลายเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งปรับตัว การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก การมีข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ชัดเจน หรือการซื้อขายคาร์บอนเครดิตจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของโอกาสทางธุรกิจโดยตรง หากใครปรับตัวก่อน เข้าใจระบบก่อนก็มีแต้มต่อในการเจรจาธุรกิจและขยายตลาดก่อน โดยความร่วมมือครั้งนี้ได้สะท้อนบทบาทเชิงรุกของกระทรวงพาณิชย์ ในการยกระดับศักยภาพของภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีให้สามารถแข่งขันได้ภายใต้บริบทใหม่ของเศรษฐกิจโลก ซึ่งประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมจะเป็นตัวแปรสำคัญของความสำเร็จ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าพร้อมทำหน้าที่เป็นกลไกกลางในการเชื่อมโยงองค์ความรู้ เครื่องมือ และโอกาสไปถึงผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีวิสาหกิจชุมชน ผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชี ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยให้เข้าใจเรื่องการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นระบบ การเชื่อมโยงเครือข่ายในภาคธุรกิจ การเสริมสร้างองค์ความรู้และทักษะด้าน Carbon Credit, Carbon Footprint และเป้าหมาย Net Zero รวมทั้งเสริมความรู้การนำคาร์บอนเครดิตไปใช้ประโยชน์ทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกรมฯ จะร่วมกับ TGO พัฒนาหลักสูตรอบรมสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ e-Learning ผ่านระบบ DBD Academy เพื่อช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและศักยภาพในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเป็นระบบของผู้ประกอบการ และนำไปสู่การได้รับรองมาตรฐานต่าง ๆ ที่จำเป็นในเวทีการค้าสากล

ด้าน นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO กล่าวว่า ภาคธุรกิจที่เข้าใจและบริหารจัดการคาร์บอนได้ดี จะมีแต้มต่อในการสร้างความน่าเชื่อถือ ขยายตลาด และเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ในระดับสากล TGO พร้อมสนับสนุนทั้งองค์ความรู้ บุคลากร และเครื่องมือในการวัดและประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ รวมถึงแนวทางการนำคาร์บอนเครดิตไปใช้ประโยชน์ทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม ความร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีสามารถก้าวสู่ระบบเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำได้จริงและยั่งยืน

สำหรับขอบเขตความร่วมมือสำคัญภายใต้ MOU ฉบับนี้ ครอบคลุมทั้งการจัดฝึกอบรม การให้คำปรึกษา การพัฒนาสื่อเรียนรู้ออนไลน์ e-Learning ผ่านระบบ DBD Academy การสนับสนุนเครื่องมือประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรและผลิตภัณฑ์ ตลอดจนแนวทางการนำคาร์บอนเครดิตไปใช้ประโยชน์ในธุรกิจ ซึ่งทั้งหมดจะช่วยปูทางให้ผู้ประกอบการไทยพร้อมรับมือกับข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศอย่างเป็นระบบ และสามารถนำคาร์บอนเครดิตมาใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างมีประสิทธิภาพ

รมว.พณ .กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) เป็นหน่วยวัดปริมาณการลดหรือดูดซับก๊าซเรือนกระจกที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล ซึ่งสามารถซื้อขายได้ในตลาดซื้อขายคาร์บอน ภาคธุรกิจสามารถใช้คาร์บอนเครดิตเป็นกลไกในการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ไม่สามารถลดได้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero หรือใช้แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสร้างความน่าเชื่อถือและเป็นแต้มต่อทางธุรกิจในเวทีการค้าสากล ดังนั้น การสร้างคาร์บอนเครดิตจึงไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่เป็นเรื่องของการทำธุรกิจอย่างชาญฉลาด หากธุรกิจใดมีความพร้อมก่อน ย่อมคว้าโอกาสทางธุรกิจได้ก่อนเช่นกัน
ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดตามและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่จัดร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกทางเว็บไซต์ www.dbd.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หมายเลขโทรศัพท์ 02 547 5158 หรือสายด่วน 1570.