“รมว.พาณิชย์” ประกาศหนุนกรมทรัพย์สินทางปัญญา ดันจับมือ The Cloud นำผู้ประกอบการ GIไทย เข้าร่วมงาน THAILAND COFFEE FEST 2025 ภายใต้บูธ GI Pavilion คัดสรรสุด 9 แบรนด์ยอดกาแฟ GI ทั่วไทย มาให้ลิ้มลองรสชาติความอร่อย เพิ่มทางเลือกในการลิ้มรส พร้อมส่งเสริมโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการ กาแฟ GI ไทย งานจัด 10 – 13 ก.ค.นี้ ณ อิมแพค เอ็กส์ซิบิชั่น เมืองทองธานี ฮอลล์ 6 บูธ Q03

วานนี้ (11 ก.ค.2568) ณ อิมแพค เอ็กส์ซิบิชั่น เมืองทองธานี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมงาน THAILAND COFFEE FEST 2025 ภายใต้บูธ GI Pavilion ว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอัตลักษณ์ชุมชนผลักดันการขึ้นทะเบียนสินค้า GI และการควบคุมคุณภาพมาตรฐาน ตลอดจนมีการ ส่งเสริมและขยายช่องทางการตลาดให้กับสินค้า GI ไทย และด้วยสินค้า GI มีความเชื่อมโยงกับพื้นที่แหล่งผลิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งผลให้สินค้ามีอัตลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้สินค้า GI เป็นสินค้าสำคัญที่ขับเคลื่อนโยบาย Soft Power ตามนโยบายของรัฐบาล

โดยเฉพาะ สินค้าในกลุ่ม “กาแฟ” ที่สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ด้วยคุณภาพ เอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ตลอดจนภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น ส่งผลให้ GI  Coffee ของไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ได้รับจด GI รวมกว่า 20 ประเทศ อาทิ กาแฟดอยตุง และกาแฟดอยช้าง ขึ้นทะเบียนในสหภาพยุโรป และญี่ปุ่น และกาแฟดอยตุง ในกัมพูชา เป็นต้น

นายจตุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความร่วมมือระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญา กับ The Cloud ครั้งนี้ เป็นโอกาสดีที่จะทำให้คอกาแฟ ได้เข้าถึงกาแฟอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น อย่างกาแฟ GI ไทยได้ง่ายขึ้น โดย กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้คัดสรรสุดยอดกาแฟ GI จากทั่วประเทศ ประกอบด้วย (1) กาแฟเทพเสด็จ จ.เชียงใหม่ (2) กาแฟดอยช้าง จ.เชียงราย (3) กาแฟดอยสวนยาหลวง จ.น่าน (4) กาแฟวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา (5) กาแฟดงมะไฟ จ.นครราชสีมา (6) กาแฟถ้ำสิงห์ชุมพร (7) กาแฟเขาทะลุ จ.ชุมพร (8) กาแฟระนอง และ (9) กาแฟมณีพฤกษ์ จ.น่าน

“อนาคตกาแฟ GI เข้าร่วมจัดแสดงในงาน THAILAND COFFEE FEST 2025 ซึ่งเป็นมหกรรมกาแฟใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 10 ที่รวบรวมกาแฟคุณภาพ เพื่อให้คอกาแฟ และผู้ที่มาเยี่ยมชมงาน ได้สัมผัสรสชาติกาแฟอย่างจุใจ อีกทั้งยังเพิ่มช่องทางการซื้อขายสินค้า สร้างโอกาสในการเจรจาธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นำมาสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้ประกอบการท้องถิ่นให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน” รมว.พาณิชย์ ย้ำ

นายจตุพร กล่าวทิ้งท้ายว่า… “การดื่มกาแฟของคนไทยในปัจจุบันเป็นได้มากกว่าการเติมความสดชื่นในแต่ละวันหากยังเป็นการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน และส่งเสริมวิถีชีวิตที่ยั่งยืน เทศกาลดังกล่าว จึงช่วยให้ผู้บริโภคได้รู้จักกับกาแฟสายพันธุ์ใหม่ๆ ช่วยเพิ่มทางเลือกในการดื่มกาแฟในแต่ละวัน นอกจากนี้ กิจกรรมภายในงานยังสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของสินค้ากาแฟ GI ไทย ว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากชุมชนท้องถิ่นที่มีคุณภาพและน่าสนใจไม่แพ้สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ”

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถมาร่วมอุดหนุนและเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการ GI ได้ที่ GI Pavilion บูธ Q03 ฮอลล์ 6 อิมแพค เอ็กส์ซิบิชั่น เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 10 – 13 ก.ค. 2568 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook : GI Thailand.