‘พาณิชย์’ ชี้เป้า! ส่งออกสินค้า ‘เพื่อสุขภาพ-คาแรคเตอร์’ ขายญี่ปุ่น รับพฤติกรรมซื้อสินค้า ‘นทท.ต่างชาติ’ เปลี่ยน

“ทูตพาณิชย์” ชงข้อมูลสำคัญส่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผย! พฤติกรรมการบริโภคของนักท่องเที่ยวต่างชาติในญี่ปุ่น นิยมซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันแทนสินค้าหรู ย้ำ! เป็นโอกาสส่งออกสินค้าเพื่อสุขภาพ และคาแรคเตอร์ไทย แต่ต้องคุมเข้มเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน ราคาเหมาะสม

น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯได้รับรายงานล่าสุดจาก ทูตพาณิชย์ นายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ถึงการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคของนักท่องเที่ยวต่างชาติในตลาดที่ญี่ปุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลง จากการซื้อสินค้าหรูมาเป็นซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันแทน และโอกาสในการส่งออกสินค้าของไทยไปจำหน่าย

โดยปัจจุบันการบริโภคของ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนญี่ปุ่นกำลังเปลี่ยนแปลงจากการซื้อสินค้าราคาแพงไปสู่การซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันแทน โดยมีข้อมูลของ สำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่นยืนยันว่า การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงเดือน ม.ค. – มี.ค.2568 อยู่ที่ 2.272 ล้านล้านเยน (ประมาณ 5.2 แสนล้านบาท) โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 222,000 เยน (ประมาณ 50,000 บาท) สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 211,000 เยน (ประมาณ 48,000 บาท) แต่ประเภทสินค้าที่ซื้อเริ่มเปลี่ยนแปลงไป

โดย มูลค่าการซื้อเฉลี่ยต่อคนของสินค้าประเภทนาฬิกาและกล้องถ่ายรูป ลดลงเกือบครึ่ง เมื่อเทียบกับปีก่อน รองเท้า กระเป๋า และเครื่องหนัง ลดลงร้อยละ 11 และ อัญมณีและเครื่องประดับมีค่า ลดลงร้อยละ 6 อาจเป็นเพราะค่าเงินเยนที่เริ่มแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ทำให้รู้สึกว่าความคุ้มค่าของการซื้อสินค้าแบรนด์เนมลดลง แต่มูลค่าการซื้อเฉลี่ยต่อคนของ เครื่องสำอางและน้ำหอม เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 อุปกรณ์เพื่อสุขภาพและของใช้ในห้องน้ำ เช่น เครื่องนวดหน้า ผ้าปิดตา ผ้าอนามัย เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 บริษัทร้านขายยาต่าง ๆ เห็นโอกาสอันนี้ และมีการปรับตัว เช่น เพิ่มจำนวนสาขาที่รองรับการยกเว้นภาษี เผยแพร่ข้อมูลสินค้าของแบรนด์ตนเองผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน (Cross-border EC) ล่วงหน้า เป็นต้น

ขณะที่ ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เริ่มระมัดระวังและจับตาการเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของนักท่องเที่ยวเช่นกัน หลังจาก ยอดจำหน่ายสินค้าปลอดภาษีเฉลี่ยต่อวันในเดือน มี.ค.2568 ลดลงร้อยละ 21 แต่สินค้าเกี่ยวกับคาแรคเตอร์ เช่น คาแรคเตอร์ของบริษัทนินเทนโด โปเกมอน ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ห้างสรรพสินค้าอย่าง PARCO และ Daimaru หันมาเปิดร้าน Pop up Store ของสินค้าเหล่านี้

น.ส.สุนันทา กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปญี่ปุ่น โดยเดือน เม.ย.2568 อยู่ที่ 3,908,900 คน เป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ในช่วงเวลาหนึ่งเดือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.5 สูงกว่าสถิติเดิมที่เคยทำไว้ในเดือน ม.ค.2568 ที่มีจำนวน 3,781,629 คน และ นอกจากการไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ แล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมซื้อของ และจากการที่หันไปซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น เป็นโอกาสสำหรับผู้ส่งออกไทย ที่ผลิตและส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพไม่เพียงแต่สินค้าที่ผลิตในรูปแบบ OEM เพื่อส่งออกไปยังญี่ปุ่น แต่ยังรวมถึงผลิตภัณฑ์แบรนด์ไทยอย่างแบรนด์เครื่องสำอางของไทยที่กำลังได้รับความนิยมและมีบทบาทมากขึ้นในญี่ปุ่น

นอกจากนี้ การเติบโตอย่างต่อเนื่องของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับคาแรคเตอร์ อาจเป็นอีกโอกาสหนึ่งสำหรับผู้ประกอบการไทยที่กำลังสนใจบุกตลาดญี่ปุ่น ซึ่งอุตสาหกรรมคอนเทนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมในการส่งเสริม Soft Power ตามนโยบายของรัฐบาล โดยคาแรคเตอร์ไทยที่มีวางจำหน่ายในญี่ปุ่นอาจมีโอกาสขยายตัวมากขึ้น หรือในกรณีที่ผู้ประกอบการไทยมีการรับจ้างผลิตสินค้า OEM ให้กับคาแรคเตอร์ญี่ปุ่น ก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน

“จากการที่ “ทูตพาณิชย์” สำรวจตลาด พบว่า ความต้องการสินค้า เช่น เครื่องสําอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ผ้าอนามัย อาหารเสริมสุขภาพ ผ้าปิดตา อุปกรณ์นวด ที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมเพิ่มสูงขึ้น สินค้าจากประเทศไทยที่ใช้สมุนไพรหรือวัตถุดิบออร์แกนิก สามารถสร้างความแตกต่างในตลาดได้ โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์แนวธรรมชาติ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น และสินค้าที่ผสมกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ไม่ว่าจะด้วย การออกแบบบรรจุภัณฑ์พิเศษหรือสินค้าลิมิเต็ดอิดิชัน อาจสามารถดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวในการซื้อเป็นของฝากได้ ซึ่งกลุ่มสินค้าคาแรคเตอร์ก็เช่นเดียวกัน แต่สินค้าต้องเน้นคุณภาพ มาตรฐาน ราคาเหมาะสม” อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวสรุป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password