กบน. ปรับลดเงินชดเชยน้ำมันดีเซล หลังราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง

นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า วันนี้( 25 ม.ย. 2568) ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้มีการพิจารณาสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก และเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ซึ่งได้มีการประกาศหยุดยิงและยุติสงคราม โดยมีมติให้ปรับลดอัตราเงินชดเชยของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับน้ำมันดีเซลลง 1.50 บาท/ลิตร จากเดิมชดเชยอยู่ที่ 65 สตางค์/ลิตร เป็นการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ อยู่ที่ 85 สตางค์/ลิตร โดยไม่ได้กระทบราคาจำหน่ายน้ำมันหน้าสถานีบริการ ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ยังคงอยู่ที่ 31.94 บาท/ลิตร เท่าเดิม เพื่อดูแลผลกระทบ และบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง
การปรับลดเงินชดเชยในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังทิศทางราคาน้ำมันโลกกลับมาผ่อนคลาย เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประกาศจบสงคราม 12 วัน และการยุติสงครามระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ส่งผลให้ไม่มีการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันทางเรือที่สำคัญ โดยตลาดน้ำมันโลกกลับสู่ภาวะปกติ และปรับลดลงอย่างมาก น้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 68.75 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 86.16 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และราคาน้ำมันเบนซิน อยู่ที่ 82.55 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
นายพรชัย กล่าวว่า “สถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหลักของราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูงขึ้น โดย กบน.ได้ใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาช่วยพยุงราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา (5 ครั้ง) โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มน้ำมันดีเซลไม่ให้ปรับขึ้นราคา ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบขนส่ง และค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งจากเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อราคาน้ำมันตลาดโลกกลับเข้าสู่ภาวะปกติ การลดการชดเชยในครั้งนี้ จึงเป็นการคลายภาระให้กับกองทุนน้ำมันฯ แต่ยังคงรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในประเทศ ไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภคและประชาชน ซึ่ง กบน.ยืนยันจะยังคงติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดูแลประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสมที่สุด”
สำหรับการปรับลดการชดเชยในวันนี้ ส่งผลให้รายรับของกองทุนน้ำมันฯ จากกลุ่มน้ำมันดีเซลกลับมาปรับตัวดีขึ้น รายรับจากกลุ่มน้ำมันดีเซล จากเดิมติดลบประมาณวันละ 40.75 ล้านบาท เป็นมีรายรับประมาณวันละ 55.75 ล้านบาท ส่วนรายรับจากกลุ่มน้ำมันเบนซิน คงที่อยู่ประมาณวันละ 76.13 ล้านบาท (รายละเอียดอยู่ในตาราง)
