อธิบดีกรมสรรพากรแจง ผลจัดเก็บรายได้ มี.ค.2568 ทะลุกว่า 1.7 แสนล้านบาท ผลจากรายได้ภาษีมูลค่าเพิ่มโต 7.6% และข้อตกลงกำหนดราคาล่วงหน้ากับสรรพากรต่างชาติ เผย! ยอดจัดเก็บรายได้ 6 เดือนแรกปีงบประมาณ พุ่งกว่า 9.66 แสนล้านบาท ส่วนการยื่นแบบภาษีเงินได้ฯ ณ 3 เม.ย. พบยื่นแล้วกว่า 11 ล้านฉบับ เป็นขอคืนภาษี 4.37 ล้านแบบ คืนให้แล้ว 83%

นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึง การจัดเก็บรายได้ในเดือน มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา ว่า มีจำนวน 170,473 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 6,603 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.0 และสูงกว่าประมาณการจัดเก็บภาษีสรรพากรตามเอกสารงบประมาณ 1,088 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.6 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณารายได้สะสม 6 เดือน (ต.ค. 2567 – มี.ค. 2568) กรมณสามารถจัดเก็บได้ 966,200 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 36,213 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.9 และสูงกว่าประมาณการฯ 10,158 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.1

“สำหรับผลการจัดเก็บรายได้ ในเดือน มี.ค.นั้น ในส่วนของ ภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการบริโภคภายในประเทศ (ภ.พ. 30) ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยสามารถจัดเก็บ ภ.พ. 30 ได้สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.6 ขณะเดียวกัน กรมฯได้จัดทำข้อตกลงการกำหนดราคาเป็นการล่วงหน้า (Advance Pricing Arrangement: APA) ระหว่างกรมสรรพากรไทยกับกรมสรรพากรต่างประเทศ ซึ่งช่วย อำนวยรายได้ภาษีเงินได้นิติบุคคลจากธุรกรรมข้ามพรมแดนที่เป็นธรรมแก่ประเทศไทย นอกจากนี้ ในส่วนการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จนถึงปัจจุบัน (ณ 3 เม.ย.) มีแบบที่ยื่นมาแล้วทั้งหมดจำนวน 11.12 ล้านแบบ โดยเป็นแบบที่มีการขอคืนภาษีจำนวน 4.37 ล้านแบบ หรือร้อยละ 39 ซึ่งกรมฯด้ดำเนินการคืนภาษีเรียบร้อยแล้วร้อยละ 83 ของแบบที่มีการขอคืนภาษี สำหรับ ผู้เสียภาษีท่านใดที่ยื่นแบบแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคืนภาษี กรมสรรพากรอาจใช้เวลาในการพิจารณา เช่น ต้องมีการขอเอกสารเพิ่มเติม ทั้งนี้ กรมสรรพากรอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ”

 หากมีข้อสงสัย สอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161.