พาณิชย์แจงเงินเฟ้อ พ.ย.67 โต 0.95% เหตุราคาสินค้าจำเป็นปรับสูงขึ้น! คาดทั้งปียังอยู่ในกรอบ 0.4 – 0.5%
ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เผยสถานการณ์ราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้นทั้งน้ำมันดีเซล และอาหารสด โดยเฉพาะผลไม้ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อ พ.ย.2567 ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ที่ 0.95% กระทรวงพาณิชย์ ประเมินภาพรวมปีนี้อัตราเงินเฟ้อเป็นไปตามกรอบ 0.4 – 0.5%
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยในเดือนพฤศจิกายน 2567 เท่ากับ 108.47 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป สูงขึ้นที่ 0.95% จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.83% โดยปัจจัยสำคัญมาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล จากฐานราคาที่ต่ำในปีก่อน และราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้นจากราคาผลไม้สด เครื่องประกอบอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์
โดย สินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์สูงขึ้น 1.28% ส่วนหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นเช่นกัน ที่ 0.70% จากราคาสินค้าและบริการที่นำมาคำนวณเป็นอัตราเงินเฟ้อ จำนวน 430 รายการ เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว มีสินค้าที่ปรับราคาสูงขึ้น 265 รายการ เช่น กล้วยน้ำว้า เงาะ มะม่วง ค่าโดยสารเครื่องบิน และน้ำมันดีเซล ส่วนราคาไม่เปลี่ยนแปลง 54 รายการ และสินค้าที่ราคาลดลง 111 รายการ เช่น ไข่ไก่ มะนาว และแชมพู
ส่งผลให้ อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 11 เดือนแรกของปี 2567 สูงขึ้น 0.32% โดยคาดว่าในเดือนธันวาคม 2567 อัตราเงินเฟ้อจะเฉลี่ยสูงขึ้น 1.2 – 1.3% ส่งผลให้ทั้งปี 2567 เงินเฟ้อจะเฉลี่ยประมาณ 0.4-0.5% อยู่ในกรอบที่คาดการณ์ไว้ 0.2-0.8% ส่วน คาดการณ์แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2568 คาดว่าอยู่ระหว่าง 0.3 – 1.3 % หรือ เฉลี่ยที่ 0.8% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นกว่าปีนี้ ราคาน้ำมันดีเซลที่กำหนดเพดานไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร และการใช้จ่ายของประชาชนที่เพิ่มขึ้นจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ขณะที่ปัจจัยกดดัน มาจากภาครัฐ ออกมาตรการลดภาระค่าครองชีพต่อเนื่อง ฐานราคาผักและผลไม้สดปีนี้อยู่ในระดับสูง เป็นต้น.