สตรอม ร่วมกับ กทม.และพันธมิตร เปิดตัว โครงการ GreenWin (วินเขียว กทม.) นำเสนอรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นทางเลือกที่ปลอดมลพิษ ไม่มีควัน กลิ่น หรือเสียง และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศในเมืองใหญ่

13 ธันวาคม 2567 – บริษัท สตรอม (ไทยแลนด์) จำกัด ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร, บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด,บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ออสก้า โฮลดิ้ง จำกัด, บริษัท อีซี่ ทรานสปอร์เตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด และสมาคมผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย เปิดตัวโครงการ “GreenWin (วินเขียว กทม.)” เพื่อส่งเสริมการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ช่วยลดมลพิษและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง โดยเฉพาะในช่วงที่มลพิษ PM 2.5 เป็นปัญหาสำคัญในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

พิธีเปิดโครงการมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 12 ธันวาคม 2567 เวลา 10.30 – 11.30 น. ณ วินจักรยานยนต์ ปากซอยสุขุมวิท ๘๑ โดยได้รับเกียรติจาก รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายสิทธิชัย อรัณยกานนท์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และทีมงานจากสำนักงานสิ่งแวดล้อม ซึ่งร่วมแสดงการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อส่งเสริมการขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากคุณบุญชัย อัศวชัยสุวิกรม ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และคุณเฉลิม ชั่งทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย ร่วมงานในครั้งนี้ด้วย

โครงการ GreenWin (วินเขียว กทม.) จะนำเสนอรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นทางเลือกที่ปลอดมลพิษ ไม่มีควัน กลิ่น หรือเสียง และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศในเมืองใหญ่ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของสตรอมสามารถชาร์จเต็มใน 3-5 ชั่วโมง วิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เป้าหมายหลักของโครงการ คือ การเปลี่ยนแปลงวิธีการขับขี่ในกรุงเทพฯ โดยสนับสนุนให้ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างหันมาใช้ยานพาหนะไฟฟ้าแทนเครื่องยนต์สันดาปที่ปล่อยมลพิษ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการใช้เชื้อเพลิงและลดภาระด้านสุขภาพจากมลพิษทางอากาศและเสียง โครงการเริ่มต้นจากการทดลองใช้งานในวินจักรยานยนต์ที่สุขุมวิท 81 โดยตั้งเป้าหมายขยายไปยังวินจักรยานยนต์ทั่วถนนสุขุมวิท และคาดว่าจะขยายผลไปยังวินต่างๆ ที่มีจำนวนมากกว่า 5,000 วินทั่วกรุงเทพฯ ภายในอนาคต

การขับเคลื่อนโครงการด้วยข้อมูลสถิติที่สำคัญ จากข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 พบว่าในประเทศไทยมีรถจักรยานยนต์รับจ้างจำนวน 119,562 คัน โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ มีจำนวนถึง 64,712 คัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์สันดาปที่ปล่อยมลพิษไปสู่การใช้พลังงานสะอาด

บริษัท สตรอม (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย มุ่งมั่นในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการดำเนินโครงการ GreenWin (วินเขียว กทม.) โดยในระยะแรก บริษัทจะมอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EZZYWIN รุ่น Panther จำนวน 20 คัน ให้กับกิจกรรมจักรยานยนต์รับจ้าง เพื่อนำไปทดลองใช้และเก็บข้อมูลเพิ่มเติม โครงการนี้คาดว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 50 ตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้เกือบ 5,500 ต้น หรือจะคิดง่ายๆ ว่า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารับส่งผู้โดยสาร 1 คันภายใน 1 วัน จะเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้เกือบ 1 ต้น

เป้าหมายระยะยาว บริษัท สตรอม (ไทยแลนด์) จำกัด  ตั้งเป้าหมายที่จะเปลี่ยนรถจักรยานยนต์น้ำมันให้กลายเป็น GreenWin ทั้งหมดในระบบวินภายในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ วินจักรยานยนต์ทั่วกรุงเทพฯ จะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 161,205 ตัน คิดเป็นการปลูกต้นไม้กว่า 18 ล้านต้นต่อปี

พ.ท.ม.ร.ว.พีรานุพงศ์ ภาณุพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตรอม (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า

“เราต้องการเปลี่ยนแปลงการขับขี่ในเมืองกรุงให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น การใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจะไม่เพียงแต่ช่วยลดมลพิษ แต่ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ขับขี่ในระยะยาว” บริษัท สตรอม (ไทยแลนด์) เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับกรุงเทพฯ และเป็นต้นแบบให้กับการขับขี่ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: • Facebook: facebook.com/STROM.EV • Instagram: @strom.ev • LINE Official: @strom.ev • Call Center: 02-730-0022 / 081 555-5523  • Website: www.stromthailand.com

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ GreenWin (วินเขียว กทม.) ซึ่งมุ่งหวังที่จะส่งเสริมให้ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างในกรุงเทพฯ หันมาใช้ยานพาหนะไฟฟ้าแทนที่เชื้อเพลิงฟอสซิล ช่วยลดมลพิษ และสร้างประโยชน์ในระยะยาวทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ขับขี่.