“มาม่า” สยายปีกบุกยุโรปเต็มสูบ เร่งดันสัดส่วนตลาดเพิ่ม 40% ภายใน2ปี
ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ สยายปีกต่างประเทศ ทุ่มงบขยายกำลังการผลิต จ่อบุกตลาดยุโรปเต็มสูบ เร่งดันสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 40% ภายใน 2 ปี ชี้การปรับราคาขายส่งผลความสามารถทำกำไร 7-8%
วันที่ 30 มิ.ย. 2566 นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFMAMA เปิดเผยถึง แนวทางในการดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ “มาม่า” ในประเทศฮังการีเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า เบื้องต้นมองว่า จะใช้งบลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท รองรับการขยายตัวของตลาดทางแถบยุโรป และ ตลาดเยอรมันตะวันออก ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพานิชย์ได้ในช่วงปลายปี 2567
ทั้งนี้ ปัจจุบันกำลังการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ “มาม่า” ที่ประเทศฮังการี จะเป็นในส่วนของการรองรับตลาดเยอรมันและฟินแลนด์เป็นหลัก ซึ่งตลาดมีการขยายตัวมากขึ้น ทำให้การผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงลงทุนขยายกำลังการผลิตเพิ่ม โดยปัจจุบันบริษัท มีสัดส่วนรายได้การจำหน่าย “มาม่า” ในต่างประเทศประมาณ 25-30% ขณะเดียวกันบริษัท ยังได้ตั้งเป้าหหมายเพิ่มสัดส่วนการขายดังกล่าวเป็น 40% ภายในอีก 2 ปีข้างหน้าอีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาขยายตลาดอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ตลาดเวียดนาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่าการเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อจะนำแบรนด์ “มาม่า” ไปกระจายในประเทศเวียดนามเพิ่มเติม แม้ปัจจุบันจะมีการขายอยู่บ้างแล้วก็ตาม
นายพันธ์ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินธุรกิจในปี2566 น่าจะเติบโตได้ประมาณ 5-6% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 27,165.20 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ จะมาจากการขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ “มาม่า” ทั้งการส่งออกและการขายภายในประเทศ และรายได้จากการขายขนมปัง และ ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ภายใต้แบรนด์ “ฟาร์มเฮ้าส์”
อย่างไรก็ดี คาดว่าปริมาณการขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ “มาม่า” ในปีนี้จะเติบโตเท่ากับภาพรวมตลาดที่ 1-2% ทั้งนี้ หลังจากที่บริษัทได้ปรับเพิ่มราคาขายในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรจากการขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ “มาม่า” เพิ่มขึ้นเป็น 7-8% ซึ่งจากเดิมที่มีกำไรเพียง 0.3%