สหโคเจน นำร่องโครงการโซลาร์รูฟท็อป 2 รพ.เครือ พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์

สหโคเจน จับมือ โรงพยาบาลเครือ พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ นำร่อง โครงการโซลาร์รูฟท็อป 2 แห่ง คาดจะก่อสร้างและขายไฟฟ้า ภายในปี 2566

เมื่อเร็วไปนี้ บริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เป็นพาร์ทเนอร์กับ บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด ภายใต้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) การซื้อขายไฟฟ้าในรูปแบบ Private PPA (Private Power Purchase Agreement) เพื่อส่งเสริมการลงทุนและการใช้พลังงานสะอาดร่วมกัน พร้อมเดินหน้ารณรงค์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นนโยบายการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ร่วมสร้างการเติบโตทั้งชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน รวมทั้งยังเป็นหนึ่งในแผนการต่อยอดการพัฒนาโครงการฯ ให้กับโรงพยาบาลในเครือ ‘พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์’ ที่จะขยายเพิ่มขึ้นให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2566

นายอุดมพงษ์ จันทรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่า โครงการนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนการขยายธุรกิจของสหโคเจน ตามที่ราช กรุ๊ป ได้กำหนดให้เป็นแฟลกชิป ในการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนขนาดย่อม เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการลงทุนให้ได้ 400 เมกะวัตต์ ภายในปี 2570

สำหรับปีนี้จะเริ่มก่อสร้างและขายไฟฟ้าจากโครงการนำร่อง จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน และโรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างและสามารถขายไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อปให้โรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ที่เหลืออีกจำนวน 9 แห่ง ได้ทั้งหมดภายในปี 2566

ทางด้าน นายสาธิต วิทยากร ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC เครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) บริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) จะเป็นผู้ลงทุนในรูปแบบ BOT (Build-Operate-Transfer) รับผิดชอบด้านการก่อสร้าง และดูแลรักษาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาลในเครือ ‘พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์’ ก่อนโอน Solar Rooftop ให้กับ บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด เมื่อสิ้นสุดสัญญา โดยมีมูลค่าการซื้อขายไฟฟ้าตามสัญญารวมประมาณ 250 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้กว่า 3 ล้านหน่วยต่อปี และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 1,500 ตันคาร์บอนต่อปี

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password