​กรมทรัพย์สินทางปัญญา เดินหน้าโครงการ Trademark Monitor ปี 2569 เฝ้าระวังเครื่องหมายการค้าไทยถูกนำไปจดในจีนและอาเซียนฟรี 1 ปี คัดเลือก SMEs เข้าร่วม 108 ราย เสริมความมั่นใจการขยายตลาด สอดรับนโยบาย Quick Big Win กระทรวงพาณิชย์

​เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา(DIP) กระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการตรวจสอบการประกาศโฆษณาเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศ เพื่อปกป้องสิทธิผู้ประกอบการไทย (Trademark Monitor) ประจำปี 2569 ผ่านระบบออนไลน์ (Zoom) โดยได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการ SMEs ที่ผ่านหลักเกณฑ์และได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ พร้อมกล่าวขอบคุณผู้ประกอบการทุกท่านที่ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองและปกป้องสิทธิในเครื่องหมายการค้าของตน ทั้งนี้ กรมฯ ได้ดำเนินโครงการ Trademark Monitor ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หลังจากในปีแรก (ปี 2568) ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยได้มีการตรวจสอบเฝ้าระวังเครื่องหมายการค้าให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 104 ราย พบเครื่องหมายการค้าไทยถูกนำไปยื่นจดทะเบียนในประเทศจีนและเวียดนาม 3 เครื่องหมาย ได้แก่ หมูเด้ง หงษ์ไทย และ IRPC ซึ่งกรมฯ ได้แจ้งและให้คำแนะนำแก่เจ้าของเครื่องหมายการค้าไทยเกี่ยวกับการดำเนินการคัดค้านการจดทะเบียนตามกระบวนการของแต่ละประเทศ ซึ่งสามารถป้องกันการสูญเสียโอกาสทางการค้าในตลาดดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที

​สำหรับโครงการ Trademark Monitor ในปี 2569 กรมฯ ได้เริ่มเปิดรับสมัครผู้ประกอบการ SMEs เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2568 โดยมีผู้ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 132 ราย และกรมฯ ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่เข้าหลักเกณฑ์และได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการจำนวน 108 ราย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่มีคำขอเครื่องหมายการค้าที่อยู่ระหว่างยื่นจดทะเบียนในไทย หรือได้รับจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งมีแผนที่จะขยายตลาดหรือเคยส่งออกสินค้าภายใต้เครื่องหมายดังกล่าวไปยังจีนและอาเซียน ซึ่งเป็นประเทศเป้าหมายตามโครงการ โดยกรมฯ จะเริ่มดำเนินการเฝ้าระวังการนำเครื่องหมายการค้าของ SMEs ทั้ง 108 ราย ไปยื่นจดทะเบียนในจีนและอาเซียน ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2568 และต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อมอบเป็นของขวัญแห่งช่วงเวลาพิเศษในเทศกาลคริสต์มาสให้แก่ผู้ประกอบการไทย ทั้งนี้ กรมฯ จะเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามเฝ้าระวัง โดยจะมีการตรวจสอบทั้งในมิติของการนำเครื่องหมายการค้าไทยไปจดทะเบียนโดยไม่สุจริต (Bad-Faith Filing) และการจดเครื่องหมายเลียนแบบ ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อการทำตลาดในต่างประเทศของผู้ประกอบการไทยเป็นอย่างมาก

​อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวทิ้งท้ายว่า กรมฯ มีความมุ่งมั่นที่จะดูแลปกป้องผลประโยชน์และพร้อมเป็นที่พึ่งให้กับผู้ประกอบการไทย ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลการละเมิดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของตนในต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดำเนินการคัดค้านการจดทะเบียนจากผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญาโดยตรง เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการคัดค้านหรือปกป้องสิทธิของตนได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนสามารถวางแผนหรือแนวทางป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องหมายการค้าต่อไปในอนาคต ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมพลังให้ภาคธุรกิจไทยสามารถขยายตลาดไปสู่ประเทศต่างๆ ได้อย่างมั่นใจ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม.