กรมพัฒนาธุรกิจฯ เปิดเวที BizClubX Business Matching 2025 เชื่อมต่อ SME กับคู่ค้า 200 คู่ คาดมูลค่าการเจรจากว่า 90 ลบ.

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจภายในงาน ‘BizClubX Business Matching 2025’ โดยจัดครั้งแรกในปีนี้ หวังสร้างโอกาสทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการ SME ที่มีศักยภาพในการแข่งขัน โดยเปิดเวที “จับคู่เจรจาธุรกิจ” รูปแบบออนไลน์และออนไซต์ จำนวน 200 คู่เจรจา คาดสร้างมูลค่าการเจรจาภายในงานไม่น้อยกว่า 90 ล้านบาท

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจัดงาน ‘BizClubX Business Matching 2025’ ในวันนี้ (13 มิถุนายน 2568) ณ ห้องฟินิกซ์ 5-6 อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ เมืองทองธานี โดยเป็นกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัดขึ้นเป็นปีแรก เพื่อผลักดันผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเข้าสู่ตลาดที่กว้างขึ้น ผ่านการจับคู่ธุรกิจอย่างเป็นระบบ พร้อมสนับสนุนให้เกิด การสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางการค้าอย่างยั่งยืน โดยได้คัดเลือก ผู้ประกอบการจำนวน 120 ราย จากผู้สมัครทั้งหมด 195 ราย ที่มีผลิตภัณฑ์เปี่ยมคุณภาพ พร้อมขยายตลาดเข้าสู่ Modern Trade และช่องทางจัดจำหน่ายอื่นๆ

กิจกรรมการเจรจาธุรกิจในครั้งนี้ มีความพิเศษด้วยการนำเสนอ ‘BizClubX 2025 Directory’ ซึ่งเป็น e-Catalogue ที่รวบรวมข้อมูลผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ซื้อ (Buyer) พิจารณาล่วงหน้า และกำหนดคู่เจรจาเป้าหมายได้อย่างตรงจุด โดยมี ผู้ประกอบการที่ผ่านเข้ารอบการเจรจาธุรกิจทั้งในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์ รวมทั้งสิ้น 95 ราย และมี Buyer จำนวน 14 ราย ประกอบด้วย ห้างโมเดิร์นเทรดชั้นนำ ได้แก่ CP All, Makro-Lotus, Big C, Tops ห้างท้องถิ่น เช่น บิ๊กแคท มาร์ท จังหวัดยโสธร และแสงทองซูเปอร์เซ็นเตอร์ จังหวัดระยอง สถานีบริการน้ำมัน เช่น บางจาก คอร์ปอเรชั่น รวมทั้งสมาคมการค้าและบริษัทเอกชนต่างๆ

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้เตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการด้วยการ จัดเสวนาในหัวข้อ “เจาะลึกโอกาสค้าขายและกลยุทธ์การเป็นคู่ค้า Modern Trade” พร้อม นำข้อเสนอแนะจากเวทีดังกล่าวมาออกบูธให้คำปรึกษา โดยหน่วยงานพันธมิตรของกรมฯ ได้แก่ *SCG Packaging มาให้คำปรึกษาด้านบรรจุภัณฑ์ *บริษัท อินเทลลิเจนท์ ดี.ซี. ให้คำปรึกษาเรื่องเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและวางแผนธุรกิจ และ *บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ให้คำปรึกษาด้านแหล่งเงินทุนและการวิเคราะห์สุขภาพทางการเงินของธุรกิจ
อธิบดีฯอรมน กล่าวเสริมว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเชื่อมั่นว่าการจับคู่เจรจาธุรกิจในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้น ที่สำคัญระหว่างผู้ประกอบการ SME และผู้ซื้อที่จะนำพาให้ทั้งสองฝ่ายสามารถเป็นคู่ค้ากันได้ในระยะยาว เป็นการช่วยยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการ SME ไทย ให้สามารถแข่งขันได้ และสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ ทั้งนี้ คาดว่าหลังเสร็จสิ้นการจัดงานฯ จะสามารถสร้างมูลค่าการเจรจาได้ไม่น้อยกว่า 90 ล้านบาท.