‘บางจาก’ เผย ไตรมาสแรกปีนี้ มีรายได้ 135,382 ล้านบาท

กลุ่มบริษัทบางจากรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 135,382 ล้านบาท EBITDA 15,308 ล้านบาท มีกำไรสำหรับงวดส่วนของบริษัทใหญ่ 2,437 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.68 บาท

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ของปี 2567 ว่า ได้รับประโยชน์จากการ synergy ระหว่างกันภายในกลุ่มบริษัทบางจากและการขับเคลื่อนการเติบโตตามแผนธุรกิจและเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 135,382 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5 จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 68 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 คิดเป็น EBITDA รวม 15,308 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 จากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 39 จากช่วงเดียวกันของปี 2566 และมีกำไรสำหรับงวดส่วนของบริษัทใหญ่ 2,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 100 จากไตรมาสก่อน คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.68 บาท

โดยในไตรมาส 1 ปี 2567 กลุ่มบริษัทบางจากได้เริ่มรับรู้ Synergy จากผลการดำเนินงานแล้วประมาณ 1,500 ล้านบาท (ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ธุรกิจการตลาด โลจิสติกส์ และผลประโยชน์ร่วมกันผ่านการสนับสนุนด้านการบริหารงาน) โดยมุ่งมั่นที่จะผลักดันการทำ Synergy เพื่อบรรลุเป้าหมาย EBITDA Synergy (ก่อนหักภาษี) ไม่น้อยกว่า 2,500 ล้านบาทในปีนี้และไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปีในปีต่อๆ ไป คาดว่าจะสามารถทำ Single Linear Program (LP) ได้ภายในครึ่งปีหลังของปีนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินการกลั่นได้ดียิ่งขึ้นอีก และปรับเปลี่ยนป้ายในสถานีบริการได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ เมื่อช่วงต้นปี 2567 ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างหน่วยผลิต SAF แห่งแรกในประเทศไทยซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มผลิต SAF ได้ภายในไตรมาส 2 ปี 2568 โดยได้มีการดำเนินการจัดหาวัตถุดิบหลักในการผลิตผ่านโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” การรับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว และร่วมมือกับซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ในการจัดหาน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วมาสู่การผลิตและจำหน่าย (UCO-to-SAF) ขณะที่ได้มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับคอสโม ออยล์ และซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ในด้านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ SAF

สำหรับไตรมาส 2 ของปี 2567 มีหลายประเด็นที่ต้องคอยจับตามอง ได้แก่ค่าการกลั่นที่ลดลงจากการชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อทั่วโลก การปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นพระโขนง และอุปสงค์ที่ลดลงตามฤดูกาล ซึ่งบริษัทฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตและการทำงาน และจะเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องสู่ทศวรรษที่ 5 ในปี 2567 ตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยยึดมั่นในจุดยืนในการรักษาสมดุลในการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “Greenovate to Regenerate สมดุลธรรมชาติ สรรค์พลังไม่สิ้นสุด” และร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emissions อย่างยั่งยืน

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password