ธนารักษ์ชี้! สิ่งปลูกสร้างมูลนิธิชยันโตฯอยู่ในที่ราชฯที่ทบ.ดูแล พร้อมเร่งถกหาข้อยุติ

อธิบดีธนารักษ์ ยัน! ที่ราชฯ 38 ไร่ ย่านสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ที่ มูลนิธิชยันโต โพธิธรรมรังสี เข้าใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ เป็นของ ทบ. ย้ำ! สิ่งปลูกสร้างทุกแห่งไม่ได้รับอนุญาต ระบุ! ธนารักษ์อยู่ระหว่างหารือร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง หาข้อเท็จจริงให้เช่าที่ราชฯได้หรือไม่? ลั่นจะหาข้อยุติโดยเร็ว

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย พลตรี มนิต ศิริรัตนากูล ผู้บัญชากองพลพัฒนาที่ 1 นายเตชสิทธิ์ สมประดี ปลัดอาวุโสอำเภอสวนผึ้ง เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบที่ราชพัสดุ บริเวณที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยขอให้ตรวจสอบกรณีมูลนิธิชยันโต  โพธิธรรมรังสี เข้าใช้ประโยชน์ เพื่อก่อสร้างมูลนิธิชยันโต โพธิธรรมรังสี โดยมิชอบ

ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ราชบุรีลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และได้รายงานผลว่าจากการตรวจสอบที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ รบ.553 (บางส่วน) ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี อยู่ในความครอบครองใช้ประโยชน์ของกองทัพบก เนื้อที่ประมาณ 38 ไร่และในบริเวณดังกล่าวมีอาคารประกอบต่างๆ หลายรายการ ซึ่งปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต เดิมสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้แจ้งความประสงค์ขอใช้เพื่อก่อสร้างวัด แต่ต่อมาได้จัดตั้งเป็นมูลนิธิ จึงไม่สามารถใช้ที่ราชพัสดุได้ เนื่องจากการขอใช้ที่ราชพัสดุจะต้องใช้เพื่อประโยชน์ในทางราชการเท่านั้น

สำหรับกรณีนี้ การดำเนินการจะต้องหารือร่วมกันระหว่าง กรมธนารักษ์ กองทัพบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณาว่า สามารถจัดให้เช่าได้หรือไม่ หากสามารถจัดให้เช่าได้จะต้องได้รับความยินยอมจากกองทัพบกผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ แต่อย่างไรก็ตามจะเร่งดำเนินการให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว

สำหรับการเข้าใช้ประโยชน์ของธรรมสถานฯ ต้องดำเนินการให้ถูกต้องภายใต้ระเบียบ หลักเกณฑ์ และกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุ โดยวิธีการจัดให้เช่า (กรณีที่ทางราชการเห็นควรให้คงสภาพพื้นที่ไว้เพื่อประโยชน์ของประชาชน) ซึ่ง ข้อเท็จจริงขณะนี้ปรากฏว่า ยังไม่ได้มีการยื่นขอเช่าที่ราชพัสดุต่อสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ราชบุรีแต่อย่างใด

ในเบื้องต้น กรมธนารักษ์จึงได้แจ้งให้มูลนิธิฯ ดำเนินการยื่นเรื่องขอเช่าที่ราชพัสดุให้ถูกต้องตามกฎหมาย ที่ราชพัสดุ รวมทั้งได้สั่งการให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ราชบุรีตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมร่วมกับกองทัพบก เพื่อประกอบการพิจารณาว่า มีการครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุมาตั้งแต่เมื่อใด มีเอกสารสิทธิหรือเอกสารแสดงการครอบครองที่ดินของทางราชการ หรือไม่ อย่างไร ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว กองทัพบก โดยกองพลพัฒนาที่ 1 เห็นพ้องด้วย และได้กำชับให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ราชบุรีรายงานความคืบหน้าให้กรมธนารักษ์ทราบ ทั้งนี้ ในส่วนคดีอาญา หรือคดีอื่นใด ต้องหารือร่วมกับกองทัพบก เพื่อพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสมในการดำเนินการต่อไป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password