การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 7 เดือนปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1

กรมธุรกิจพลังงาน เผย สถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 7 เดือนของปี 2566 (มกราคม – กรกฎาคม) อยู่ที่ 156.14 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.1

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 อยู่ที่ 156.14 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.1 โดยการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้นร้อยละ 76.6 และการใช้ NGV เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ขณะที่ น้ำมันกลุ่มดีเซล น้ำมันเตาและ LPG มีการใช้ลดลงร้อยละ 3.3 ร้อยละ 6.7 และร้อยละ 0.2 ตามลำดับ

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 31.99 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.7 การใช้แก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 18.13 ล้านลิตร/วัน และแก๊สโซฮอล์ อี20 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.93 ล้านลิตร/วัน ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ อี85 และเบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 6.87 ล้านลิตร/วัน 0.20 ล้านลิตร/วัน และ 0.48 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ทั้งนี้ ส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์ 95 ใกล้เคียงกับแก๊สโซฮอล์ 91 ประกอบกับแก๊สโซฮอล์ อี20 มีราคาที่ต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ อี85

การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 71.03 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.3 โดยเป็นการลดลงทุกชนิด สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ลดลงมาอยู่ที่ 64.81 ล้านลิตร/วัน ขณะที่น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาและน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 และน้ำมันดีเซลพื้นฐาน ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 0.93 ล้านลิตร/วัน 0.16 ล้านลิตร/วัน และ 5.13 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ

ทั้งนี้ ภาครัฐยังคงมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซล โดยใช้มาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลต่อไปจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 และใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ 32 บาทต่อลิตรภายหลังจากมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 5 บาทต่อลิตรจะสิ้นสุดลง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลโลกมีความผันผวนจากความกังวลทางเศรษฐกิจและวิกฤตด้านการเงินจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 13.41 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 76.6 เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลับมาเดินทางทางอากาศยานเพิ่มมากขึ้นภายหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย

การใช้ LPG เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 18.13 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.2 โดยภาคปิโตรเคมีมีการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 8.17 ล้าน กก./วัน ภาคครัวเรือนลดลงมาอยู่ที่ 5.70 ล้าน กก./วัน และภาคอุตสาหกรรมลดลงมาอยู่ที่ 2.01 ล้าน กก./วัน ขณะที่การใช้ในภาคขนส่งอยู่ที่ 2.25 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8

การใช้ NGV เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.45 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.9 เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการตามปกติ ประกอบกับมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาพลังงาน ช่วยเหลือประชาชน โดยการคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2566 ถึง 15 มิถุนายน 2566

การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,067,285 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.5 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 94,705 ล้านบาท/เดือน โดยเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 990,649 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 89,069 ล้านบาท/เดือน

สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) อยู่ที่ 76,636 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.0 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 5,636 ล้านบาท/เดือน
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลน้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกอยู่ที่ 159,639 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 7.2 คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 15,574 ล้านบาท/เดือน

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password