SSP คว้าโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT 170.5 MW
SSP คว้างานประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) จำนวน 170.5 เมกะวัตต์ เดินหน้าโรงไฟฟ้า Renewable เต็มรูปแบบ วางเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าในพอร์ตอีก 3 ปี โตเท่าตัว
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า บริษัทฯชนะประมูลในโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) รวม 170.5 เมกะวัตต์ แบ่งออกเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 7 โครงการ กำลังผลิตตามสัญญารวม 154.5 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม จำนวน 2 โครงการ กำลังผลิตตามสัญญารวม 16 เมกะวัตต์ ซึ่งมั่นใจว่าจากแผนการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ จะช่วยสนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตามแผนงานที่วางไว้
จากความสำเร็จจากการชนะประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) จำนวน 170.5 เมกะวัตต์ ดังกล่าว เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ โดยจะมุ่งขยายการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังทดแทนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง บริษัทฯกำลังศึกษาและเตรียมความพร้อม
สำหรับเข้าประมูลการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมตามที่กกพ.ได้ประกาศออกมา ประกอบด้วย พลังงานแสงอาทิตย์ 2,632 เมกะวัตต์ พลังงานลม 1,000 เมกะวัตต์ ก๊าซชีวภาพ (น้ำเสีย/ของเสีย) 6.5 เมกะวัตต์ และขยะอุตสาหกรรม 30 เมกะวัตต์ คิดเป็นปริมาณรับซื้อเพิ่มเติมรวม 3,668.5 เมกะวัตต์ เพื่อขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดประเภทอื่นๆ
ส่วนแนวโน้มรายได้ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง เทียบปีที่ผ่านมา และความคืบหน้าในการลงทุนในช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้จัดตั้งบริษัทลงทุน Sermsang Next Ventures เพื่อดำเนินธุรกิจใหม่ โดยเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่จะเติบโต ซึ่งจะช่วยสร้าง New S-curve สนับสนุนผลงานโตก้าวกระโดดในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทฯ มองหาโอกาสเพื่อเข้าไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้แก่ ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน ที่จะทำให้พอร์ตกำลังผลิตเติบโตแบบก้าวกระโดด
ปัจจุบันบริษัทฯมีฐานะทางการเงินที่มีความแข็งแกร่ง รองรับแผนการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบ โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เปิดดำเนินงานแล้ว 236 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าหมายในอีก 3 ปี มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นเท่าตัวทะลุ 500 เมกะวัตต์ โดยมีสัดส่วนจากแหล่งพลังงานใหม่ๆ เช่น พลังงานลม หรือ ชีวมวล เพิ่มมากขึ้น