ปิดตำนาน! “คดีทุจริตบีบีซี” ศาลสั่งคุก “ราเกซ สักเสนา” 335 ปี ชดใช้ 350 ล้านบาท

จุดจบ ปิดฉาก “ราเกซ สักเสนา” อดีตผู้บริหารบีบีซี ทุจริตปล่อยกู้ธนาคารโดยไม่มีหลักประกัน ศาลอาญา พิพากษาจำคุก 335 ปี ชดใช้เงินคืนกว่า 350 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 12 ก.ย ที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ศาลได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาคดีที่ 2554-2556/2565 ที่ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้อง นายราเกซ สักเสนา อายุ 70 ปี นักการเงินการธนาคาร สัญชาติอินเดีย เป็นจำเลยฐานกระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ โดยเอาสำนวนสามสำนวนมารวมและสืบพยานรวมกัน ทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

อัยการฟ้องว่า เมื่อระหว่างปี 2537-2539 จำเลยซึ่งเป็นที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี กับพวกให้ความสะดวกแก่ นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ (เสียชีวิตแล้ว) อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บีบีซี ได้ทุจริตใช้บัตรการอนุมัติให้สินเชื่อเกินบัญชีเกินกว่า 30 ล้านบาท กับเอกชนได้แก่ บริษัทสมประสงค์ อินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และเอกชนรายอื่นร่วม 10 แห่ง โดยการอนุมัติดังกล่าวไม่ผ่านการพิจารณากลั่นกรองจากคณะกรรมการสินเชื่อ หรือ คณะกรรมการบริหารของธนาคารบีบีซีก่อน และได้อนุมัติสินเชื่อโดยผู้ขอสินเชื่อ ไม่มีหลักประกันตลอดจนไม่มีการวิเคราะห์ฐานะของลูกหนี้ และความสามารถในการชำระหนี้คืน อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และพฤติการณ์อื่นๆ

โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ และข้อหาอื่นๆ กับให้จำเลยคืนเงินจำนวน 722,136,005.03 บาท และจำนวน 1,427,195,799.92 บาท กับจำนวน 353,363,966 บาท แก่ธนาคารบีบีซี ผู้เสียหายด้วย และนับโทษจำเลยต่อจากคดีอื่นๆ

คดีนี้ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ พิพากษาว่าจำเลยผิดตามฟ้อง จำคุกกระทงละ 5 ปี และปรับกระทงละ 500,000 บาท รวม 67 กระทง จำคุกรวม 335 ปี และปรับ 33,500,000 บาท แต่ตามกฎหมายลงโทษจริง 20 ปี ถ้าไม่ชำระค่าปรับให้กักขัง 2 ปี ให้ชดใช้เงินอีก ในสำนวนคดีแรกจำนวน 722,136,005.03 บาท ในสำนวนที่สองอีก 1,427,195,799.92 บาท และในสำนวนที่สามจำนวน 353,363,966 บาท แก่บีบีซี

ศาลฎีกา เห็นว่า พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมารับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดนั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืน (จำคุก 335 ปี ติดจริง 20 ปี และปรับรวมยอด 3 สำนวน อีกทั้งได้ติดคุกมานานเป็นสิบปีแล้ว) โดยศาลได้ออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุดตามผลคำพิพากษาของศาลฎีกา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการอ่านคำพิพากษาฎีกาในวันนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อ่านคำพิพากษาผ่านระบอบจอภาพทางไกล หรือ วิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ ไปยังเรือนจำซึ่งเป็นสถานที่คุมขังนายราเกซ ทั้งนี้ นายราเกซ ได้หลบหนีความผิดไปยังรัฐบริติส โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา กระทั่งศาลฎีกาแคนาดา มีคำสั่งให้ส่งตัวนายราเกซเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย .

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password