สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่นเยือนไทยพบ “เอกนิติ-บีโอไอ” เจรจาลงทุนอุตสาหกรรมใหม่

รองนายกฯ เอกนิติ และเลขาฯ บีโอไอ พบหารือกับคณะนักลงทุนจากสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น หรือ เคดันเรน (Keidanren) องค์กรภาคธุรกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดของญี่ปุ่น เจรจาเชิญชวนลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ ทั้งด้านพลังงานสะอาด แบตเตอรี่ เซมิคอนดักเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะในประเทศไทย โดยนักลงทุนญี่ปุ่นมองไทยเป็นศูนย์กลางซัพพลายเชนสำคัญของภูมิภาค
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อ24 พฤศจิกายน 2568 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะผู้บริหารบีโอไอให้การต้อนรับ นายอิชิอิ เคอิตะ และนายซูซุกิ จุน ประธานร่วมในคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจญี่ปุ่น-ไทย สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (Keidanren) ณ โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ ในโอกาสที่นำคณะผู้บริหารสมาพันธ์และนักธุรกิจชั้นนำของญี่ปุ่น จำนวนกว่า 20 คน เช่น บริษัท Itochu, Teijin, Sumitomo, Mitsubishi, Nippon Steel, Marubeni, SMBC, ANA, Japan Airline, Mitsui Sumitomo Insurance เป็นต้น เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อรับฟังข้อมูลด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล

คณะนักลงทุนญี่ปุ่นให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับการส่งเสริมด้านพลังงานสะอาด ซึ่งไทยได้ยืนยันถึงความพร้อมของกลไกพลังงานสะอาดที่เตรียมประกาศใช้ภายในปีนี้ ทั้งการให้บริการไฟฟ้าสีเขียว (Utility Green Tariff: UGT) และการซื้อขายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนโดยตรง (Direct PPA) รวมทั้งมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ นอกจากนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นยังได้มีข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาบุคลากรให้ตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสตาร์ตอัปญี่ปุ่นและไทย
สำหรับฝ่ายไทย ได้เชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นให้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ดิจิทัล และแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของอุตสาหกรรมยุคใหม่ของประเทศไทย นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังได้ให้ความเชื่อมั่นต่อการสนับสนุนภาคเอกชนญี่ปุ่นในฐานะที่เป็นพันธมิตรด้านการลงทุนที่สำคัญมายาวนาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ญี่ปุ่นเป็นผู้ลงทุนหลักและมีซัพพลายเชนจำนวนมาก ที่ผ่านมารัฐบาลและบีโอไอ ได้ออกมาตรการสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) รวมทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วน ให้สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีใหม่และยานยนต์ไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น HEV, PHEV หรือ BEV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญในการสร้างรากฐานที่เข้มแข็งของภาคอุตสาหกรรมไทย และเป็นผู้ลงทุนหลักในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการช่วยพัฒนาซัพพลายเชนในประเทศให้แข็งแกร่ง ในการหารือกับสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่นครั้งนี้ รัฐบาลได้แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะดูแลและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการญี่ปุ่นเติบโตร่วมกับเศรษฐกิจไทยอย่างมั่นคงท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก อีกทั้งได้เชิญชวนให้ญี่ปุ่นยกระดับไปสู่การลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมทั้งการเข้ามาจัดตั้งสำนักงานภูมิภาค และศูนย์วิจัยและพัฒนาเพิ่มเติมในประเทศไทย” นายนฤตม์ กล่าว

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะบีโอไอ มีกำหนดการเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 27 – 29 พฤศจิกายน 2568 โดยจะพบกับบริษัทรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 และบีโอไอร่วมกับธนาคาร SMBC และพันธมิตรภาคธุรกิจญี่ปุ่นจะจัดสัมมนาใหญ่ “Thailand-Japan Investment Forum 2025” ณ Tokyo Kaikan กรุงโตเกียว ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ด้วย






