ก.อุตฯ โชว์ผลสำเร็จขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ ปั้นเชฟไฟแรงรุ่นแรก 1,300 คน

กระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลสำเร็จขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ สาขาอาหาร ผ่านโครงการ “หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย” โดยมีนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีการปัจฉิมนิเทศและมอบใบประกาศนียบัตรให้กับบุคลากรรุ่นแรกกว่า 1,300 คน ที่ผ่านการพัฒนาและเสริมทักษะสู่การเป็นเชฟ พร้อมสร้าง Train The Trainer จำนวน 325 คน คาดต่อยอดอุตสาหกรรมอาหารสร้างคุณค่า และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1,500 ล้านบาท สอดรับกับนโยบาย “ครัวไทยสู่โลก”

ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเรือธงสำคัญในการมุ่งยกระดับทักษะและปลดล็อคศักยภาพของคนไทยในการสร้างงาน สร้างรายได้ผ่านการส่งเสริม 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์หรือ OFOS (One Family One Soft Power) เพื่อพัฒนาความสามารถของคนไทยให้สร้างมูลค่า เพิ่มทักษะใหม่ (Upskill) เสริมทักษะเดิม (Reskill) โดยเฉพาะสาขาอาหารไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่ทรงพลังที่สุด เพราะเป็นมากกว่าอาหารโดยเป็นตัวแทนของวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความคิดสร้างสรรค์ที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ของชาติ
กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้นำของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่” ด้วยการยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็ง
พัฒนาระบบนิเวศในการดำเนินธุรกิจ และส่งเสริมการประกอบกิจการให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

รวมถึงสนับสนุนการใช้ภูมิปัญญาและทุนทางวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อยกระดับสินค้าทั้งด้านมาตรฐานและดีไซน์ให้ทันสมัย โดดเด่น แตกต่าง และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งสอดรับกับการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล โดยเร่งผลักดันซอฟพาวเวอร์ในสาขาหลักที่ได้รับมอบหมายคือ แฟชั่นและอาหาร โดยเฉพาะสาขาอาหารซึ่งประเทศไทยได้รับการขนานนามว่าเป็น ”ครัวของโลก” จึงสั่งการให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ร่วมบูรณาการ 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ดำเนินโครงการ “หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย” เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารไทยโดยมุ่งสร้างกำลังคนผ่านการพัฒนาและสร้างทักษะให้แก่บุคคลด้านอาหาร

รวมถึงเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ระบบนิเวศของอุตสาหกรรมอาหาร ผ่าน 3 แนวทาง คือ 1. สร้างสรรค์และต่อยอดด้วยการใช้ความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ รวมถึงต่อยอดต้นทุนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ 2. โน้มน้าว โดยการจูงใจให้เปลี่ยนแปลงทางด้านความคิด หรือพฤติกรรมความชอบผ่านการเล่าเรื่องราวที่มีคุณค่าและมีความหมาย (Storytelling) และ 3. เผยแพร่ โดยการบอกเล่าเรื่องราวผ่านเครื่องมือต่าง ๆ อาทิ Influencer ซีรีส์ ละครย้อนยุค


นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม กล่าวว่า โครงการดังกล่าวได้การดำเนินงานภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การพัฒนาหลักสูตร เชฟอาหารไทยมืออาชีพให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ การพัฒนาหลักสูตรอาหารไทย (ตำรับ) โดยจัดทำสื่อความรู้เผยแพร่ผ่านช่องทางต่าง ๆ พร้อมทั้งจัดทำคู่มือหลักสูตรดำเนินการ ประชาสัมพันธ์ รับสมัคร และคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย เข้าร่วมโครงการโดยเชื่อมต่อกับกองทุนหมู่บ้าน รวมถึงการสร้างแรงงานทักษะสูง ครูผู้สอน (Train The Trainer) โดยการฝึกอบรมระยะเวลา 30 ชั่วโมง เพื่อให้ครูผู้สอนเข้าใจและนำไปต่อยอดถ่ายทอดให้กับผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพได้อย่างมีคุณภาพ ตลอดจนการพัฒนาทักษะเชฟอาหารไทยมืออาชีพ (Master Thai Chef Program) ด้วยหลักสูตรที่ได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อให้สามารถนำทักษะและองค์ความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการประกอบอาชีพพร้อมเข้ารับการทดสอบคุณวุฒิวิชาชีพต่อไป

ซึ่งในปีที่ผ่านมา “ดีพร้อม” สามารถพัฒนาองค์ความรู้และเพิ่มทักษะให้กับบุคลากรสาขาอาหารกว่า 1,300 คน และสร้างครูผู้สอน Train The Trainer จำนวน 325 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานวิชาชีพ อาทิ ประกาศนียบัตรสมรรถนะผู้ประกอบอาหารไทยระดับ 4 จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ประกาศนียบัตรมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติสาขาผู้ประกอบอาหารไทยระดับ 1จากกรมพัฒนา ฝีมือแรงงานจำนวน 1,040 คน


โดยคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1,500 ล้านบาท และจะก่อให้เกิดการหมุนเวียนกลับไปสู่เศรษฐกิจท้องถิ่นและระดับประเทศต่อไป


“ดีพร้อม” เชื่อมั่นว่าโครงการหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย ไม่เพียงแต่สร้างทักษะอาชีพให้คนไทยเท่านั้น เพราะพลัง Soft Power จากอาหารไทยที่เชฟชุมชนได้รังสรรค์เมนู จะเป็นการบอกเล่าคุณค่า เรื่องราว และความมีเสน่ห์ของอาหารไทยให้เป็นที่รู้จัก เกิดการยอมรับในระดับนานาชาติ และยิ่งไปกว่านั้นคือ การเป็นทูตวัฒนธรรมด้านอาหารไทยที่สามารถถ่ายทอดรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก

นอกจากนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ สาขาอาหาร ตามนโยบายของรัฐบาล และเป็นก้าวแรกในการยกระดับคุณภาพ มาตรฐาน อาหารภูมิปัญญาไทยสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ และพัฒนาศักยภาพของคนไทยเพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างรากฐานให้กับเศรษฐกิจชุมชน อันจะนำไปสู่การขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ก่อให้เกิดการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป นางสาวณัฏฐิญา กล่าว

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password