อธิบดีกรมธนารักษ์ ชวนเที่ยวงานราตรี “โคราชบ้านเอ๋ง เรื่องเล่าขาน ตำนานกำแพงเมือง” จ.นครราชสีมา เริ่ม 5-6 กันยายน 2567 ณ บริเวณกำแพงเมืองเก่านครราชสีมา (ถนนพลแสน) ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ กิจกรรมร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการอนุรักษ์ และการบริหารจัดการพื้นที่บริเวณกำแพงเมือง–คูเมืองจากผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและภาคประชาสังคม รวมถึงการออกร้านจำหน่ายเหรียญกษาปณ์ ผลิตภัณฑ์และอาหารพื้นเมือง

นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ร่วมกับเครือข่ายความร่วมมือจัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้ประวัติศาสตร์กำแพงเมือง-คูเมือง จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 5-6 กันยายน 2567 บริเวณกำแพงเมืองเก่านครราชสีมา (ถนนพลแสน) จังหวัดนครราชสีมา เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป ภายในงานพบกับกิจกรรมมากมาย อาทิ กิจกรรมเสวนาในหัวข้อ “โคราชบ้านเอ๋ง เรื่องเล่าขาน ตำนานกำแพงเมือง” ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการอนุรักษ์ และการบริหารจัดการพื้นที่บริเวณกำแพงเมือง–คูเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและภาคประชาสังคม ได้แก่ ผศ.พิทักษ์ชัย จัตุชัย นักประวัติศาสตร์ และอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10  นครราชสีมา นายชาตรี วงษ์วิบูลย์สิน รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา และ นายทวีชัย ลิยี่เก อดีตผู้ตรวจราชการกรมธนารักษ์

ภายในงานยังมีนิทรรศการเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ของกำแพงเมือง-คูเมือง และภารกิจด้านการบริหารจัดการที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ พร้อมด้วย กิจกรรมนั่งรถรางชมเมืองนครราชสีมา กิจกรรมประกวดถ่ายภาพ ในหัวข้อ “กำแพงเมืองโคราช Through Your Lens” และ กิจกรรมประกวดการเล่าเรื่อง ในหัวข้อ “เล่าเรื่องเมืองคุณย่า” พร้อม การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหรียญโดยสำนักงานธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา และการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอาหารพื้นเมือง

“สำหรับการจัดงาน “โคราชบ้านเอ๋ง เรื่องเล่าขาน ตำนานกำแพงเมือง” ในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในจังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งสร้างรายได้ เสริมสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้กับชุมชนท้องถิ่น และสร้างการมีส่วนร่วมให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความตระหนักรู้ในการอนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่บริเวณกำแพงเมือง-คูเมือง  ให้เป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์และแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศ” อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวทิ้งท้าย.